Page 68 - ผู้หญิงก้าวเดิน : มูลนิธิรักษ์ไทย
P. 68

ในเรื่องการเปิดเผยตัวตนนั้น จากประสบการณ์ของต้อยได้เรียนรู้ว่า ไม่ต้องบอกเรื่อง
        ของเราทั้งหมดก็ได้ ตอนที่ต้อยเข้าเรียนมัธยมก็ไม่ได้บอกผลเลือดกับใคร แถมยังเป็น

        เด็กกิจกรรมในโรงเรียนด้วย เรื่องนี้ไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากกว่าตอนที่อยู่ประถม
        ครูบางคนก็รู้แต่ไม่ได้พูดให้มีผลกระทบต่อการดำาเนินชีวิต


        ต้อยเห็นว่ามีหลายมุมมองที่

        ต้องพิจารณาในการที่จะบอก          “ถ้ามุมชาวบ้านเขาก็จะรู้สึกน่ากลัว
        กับคนอื่นว่าเป็นผู้อยู่ร่วมกับ     เพราะองค์ความรู้เดิม ก็จะมีทัศนะ
        เชื้อ                      อีกมุมมองหนึ่ง แต่พอเราโตขึ้น เพื่อนบางคน
                                       ที่รู้ผลเลือดก็รู้ว่าไม่ได้มีผลกระทบอะไร

        จากการที่ต้อยได้เคยเข้าร่วม    แต่บางคนอาจจะกลัว ไม่อยากอยู่ใกล้
        กิจกรรมเดย์แคร์กับรักษ์ไทย  ตอนประถมอาจจะหนักกว่าในเรื่องการตีตรา
        มาตั้งแต่เด็ก  จึงมีเครือข่าย  แต่เพื่อนบางคนในกลุ่มอาจโดนเพื่อนล้อ
                                      ด้วยภาวะสุขภาพ อย่างต้อยก็เคยโดน
        กลุ่มเพื่อนที่พบกันเวลาทำา         เพื่อนช่วงประถมล้ออยู่เหมือนกัน

        กิจกรรมในโรงพยาบาล เมื่อ   ไม่ให้กินน�้าแก้วเดียวกัน แต่ตอนนี้พอโตขึ้น
        ย่างเข้าสู่วัยรุ่นเพื่อนกลุ่มนี้  ก็ยังเป็นเพื่อนกัน ตอนนั้นเราก็ไม่รู้
        ยังพูดคุยกันมาอย่างต่อเนื่อง          ว่าท�าไมถึงรังเกียจ ก็งอนกัน
        โดยเริ่มแรกก็คุยเรื่องเพื่อน                      ตามประสาเด็ก”

        เรื่องแฟน  เรื่องครอบครัว
        ต่อมาเห็นว่าน่าจะร่วมกันตั้งเป็นกลุ่มให้เป็นทางการมากขึ้น  จึงได้ฟอร์มทีมโหวต
        ชื่อกลุ่มออกมา ชื่อ “รักษ์ไทยเพาเวอร์ทีน” เพื่อเป็นกลุ่มที่ให้คำาปรึกษา ติดตาม
        ส่งกำาลังใจซึ่งกันและกัน



        ดูเหมือนว่ากระบวนการเข้าสู่วัยรุ่นของเยาวชนกลุ่มนี้มีเรื่องให้ต้องกังวลหลายด้าน
        ไหนจะเปลี่ยนแผนกหาหมอจากเดิมอยู่แผนกเด็ก ที่มีพี่หมอพูดจาภาษาเด็ก ก็ต้อง
        ก้าวไปสู่แผนกผู้ใหญ่ แม้จะกินยาตัวเดิมแต่ความเข้มงวดจะมีมากกว่า ห้องตรวจ





        66  ผู้หญิงก้าวเดิน
   63   64   65   66   67   68   69   70   71   72   73