Page 52 - รายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล ปีที่ 4
P. 52

๗.๕ นโยบายหลักที่ ๕ การพัฒนาเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของไทย
                     รัฐบาลได้รักษาเสถียรภาพทางการคลังของประเทศและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการรายได้

           และรายจ่ายภาครัฐ รักษาเสถียรภาพระบบการเงิน สร้างบรรยากาศส่งเสริมการลงทุนของภาคธุรกิจและการจับจ่าย

           ใช้สอยของภาคครัวเรือน โดยมีผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ดังนี้
                     ๗.๕.๑ เศรษฐกิจมหภาค การเงินและการคลัง

                            ๑) ด าเนินนโยบายการเงินการคลัง เพื่อให้เศรษฐกิจไทยสามารถตอบสนองต่อความผันผวน

           ของเศรษฐกิจโลก เช่น ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ
           โรคโควิด-๑๙ โดยสนับสนุนสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยเป็นธรรมให้แก่กลุ่มประชาชนฐานรากและผู้ประกอบการรายย่อย

           ตั้งแต่ปี ๒๕๖๓ - ๒๕๖๕ จ านวน ๕.๘๒ ล้านราย เป็นเงิน ๗๕๕,๑๙๒ ล้านบาท ปรับลดโครงสร้างดอกเบี้ย/ลดภาระ
           ดอกเบี้ยสินเชื่อ เช่น ปรับลดอัตราดอกเบี้ยจ าน าทะเบียนรถในตลาด จากร้อยละ ๒๘ ต่อปี เป็นร้อยละ ๑๖ - ๑๘ ต่อปี

           มีผู้ได้รับสินเชื่อ จ านวน ๑.๔๓ ล้านราย เป็นเงิน ๓๑,๖๐๑ ล้านบาท ด าเนินโครงการสินเชื่อต่าง ๆ เช่น (๑) โครงการ
           ให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจภายใต้พระราชก าหนดการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ

           จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๔ โดยมีผู้ประกอบการได้รับความช่วยเหลือ จ านวน

           ๙๖๑ ราย วงเงิน ๒,๕๙๑.๔๘ ล้านบาท (๒) โครงการสินเชื่อ SMEs Re - Start มีผู้ประกอบการได้รับความช่วยเหลือ
           จ านวน ๑,๑๔๐ ราย วงเงิน ๒,๐๓๒.๖๖ ล้านบาท (๓) โครงการสินเชื่อธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (BCG Loan)

           มีผู้ประกอบการได้รับความช่วยเหลือ จ านวน ๒๖๙ ราย วงเงิน ๑,๖๗๐.๖๐ ล้านบาท

                            ๒) ก ากับดูแลวินัยการเงินการคลัง รัฐบาลได้ด าเนินการตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง
           ของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และติดตามก ากับดูแลการด าเนินการตามพระราชบัญญัติดังกล่าว เช่น จัดท ารายงานความเสี่ยง

           ทางการคลังประจ าปีงบประมาณ จัดท าแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ ๒๕๖๗ - ๒๕๗๐)

                            ๓) ปฏิรูปโครงสร้างรายได้ภาครัฐ เช่น จัดท าแผนการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการให้บริการ
           ทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ (e-Service) เช่น พัฒนาระบบการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มทางอิเล็กทรอนิกส์

           (VAT for Electronic Service: VES) มีผู้ประกอบการลงทะเบียนผ่านระบบฯ จ านวน ๑๔๕ ราย ติดตามการเบิกจ่าย
           งบลงทุนรัฐวิสาหกิจ ในปี ๒๕๖๕ รัฐวิสาหกิจมีผลการเบิกจ่ายงบลงทุนมากกว่า ๓๒๕,๐๐๐ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ

           ๙๓ ของกรอบลงทุนทั้งปี

                            ๔) ปฏิรูประบบการออม เช่น โครงการส่งเสริมการออม
           ผ่านการลงทุนในพันธบัตรออมทรัพย์ (Savings Bond) และเผยแพร่ความรู้

           ความเข้าใจเกี่ยวกับตราสารหนี้ภาครัฐแก่ประชาชนทั่วไป โดยจ าหน่ายพันธบัตร
           ออมทรัพย์ จ านวน ๒ ครั้ง วงเงินรวม ๕๙,๑๗๕.๐๙๔ ล้านบาท การพัฒนา

           แพลตฟอร์มสนับสนุน/ส่งเสริมการปลูกฝังการออม ให้ความรู้ทางการเงิน

           และสร้างวินัยทางการเงิน ยกระดับสู่การออมเพื่อวัยเกษียณ หรือการวางแผน
           การออมเพื่อการเกษียณ ผ่านเครื่องมือวางแผนทางการเงินบน Mobile

           Application (โค้ชออม) มีผู้เข้าใช้งานสะสม จ านวน ๖,๓๖๒ ราย โครงการ

           เพิ่มสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ มีสมาชิกสะสม จ านวน ๒.๕๑ ล้านราย





                                รายงานผลการดำำาเนินงานของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์์ จัันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปีที� ๔
             รายงานผลการด าเนินงานของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปีที่ ๔
           48 (๒๕ กรกฎาคม - ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕)                              (๒๕ กรกฎาคม - ๓๑ ธ์ันวาคม ๒๕๖๕)
                                                                                                       ๔๘
   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57