Page 37 - วารสารจิตอาสา ฉบับที่ ๔ เดือน มกราคม ๒๕๖๖
P. 37
จิตอาสา หรือจิตสาธารณะ
ตำ�รวจภูธรภ�ค 2
“จิตอาสา” หนทางอยู่ร่วมกันในสังคม เริ่มที่คุณ…
การร่วมมือกันรณรงค์ส่งเสริม “จิตอาสา” ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เป็นการเรียก “น�้าใจงาม”
ของคนไทยให้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง และควรจะต้องดีขึ้นกว่าเดิม เพราะจะไม่จ�ากัดอยู่เฉพาะญาติมิตร
เพื่อน หรือคนรู้จักเท่านั้น แต่ควรต้องเผื่อแผ่ ดูแลสังคมไทย ดูแลสิ่งแวดล้อม ชุมชน ตลอดจนปัญหาต่าง ๆ
รอบ ๆ ตัวร่วมกัน ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ท�าดีให้เป็นรูปธรรมกันมากขึ้น ไม่เพียงแต่ รอดูว่าใครจะรับผิดชอบ
เรื่องอะไร แต่ควรต้องออกมามีส่วนร่วมรับผิดชอบด้วยกัน
ในยุโรป หรืออเมริกา ค่านิยมในการเป็นอาสาสมัครมีมานานแล้ว อันเนื่องมาจากแรงผลักดันของศาสนา
คริสต์ และความคิดเรื่องประชาสังคมในสังคมตะวันตกที่มีส่วนผลักดันให้เกิดอาสาสมัครอย่างต่อเนื่อง ยุคแรก
ของจิตอาสาในไทยมาจากการรวมตัวช่วยเหลือกันในหมู่ชาวจีนโพ้นทะเล ต่อมาเกิดกิจกรรมค่ายอาสาพัฒนา
ตามสถาบันการศึกษา และโดยเฉพาะการเกิดขึ้นของเอ็นจีโอ ท�าให้ความคิดเรื่องการท�างานอาสาสมัครช่วยเหลือ
สังคมแพร่หลาย เมื่อกล่าวถึง “จิตอาสา” อาจจะเป็นค�าใหม่ที่เริ่มเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างไม่ถึง ๑๐ ปี
ผู้น�าค�านี้มาใช้ครั้งแรก น่าจะเป็นเครือข่ายพุทธิกา ในโครงการ “ฉลาดท�าบุญด้วยจิตอาสา” ต่อมาค�านี้ได้ถูกน�า
ไปใช้อย่างแพร่หลาย พระไพศาล วิสาโล ได้ให้ความหมาย..“จิตอาสา” ว่า คือจิตที่ไม่นิ่งดูดายต่อสังคม
หรือความทุกข์ยากของผู้คน และปรารถนาเข้าไปช่วย ไม่ใช่ด้วยการให้ทาน ให้เงิน แต่ด้วยการสละเวลา
ลงแรงเข้าไปช่วยด้วยจิตที่เป็นสุขที่ได้ช่วยผู้อื่น จะเน้นว่าไม่ใช่แค่ท�าประโยชน์เพื่อผู้อื่นอย่างเดียว แต่เป็น
การพัฒนา “จิตวิญญาณ” ของเราด้วย
“จิตอาสา” คือ ผู้ที่มีจิตใจที่เป็นผู้ให้ เช่น ให้สิ่งของ ให้เงิน ให้ความช่วยเหลือด้วยก�าลังแรงกาย แรงสมอง
ซึ่งเป็นการเสียสละ สิ่งที่ตนเองมี แม้กระทั่งเวลา เพื่อเผื่อแผ่ให้กับส่วนรวม…อีกทั้งยังช่วยลด “อัตตา”
หรือ ความเป็นตัว เป็นตนของตนเองลงได้บ้าง
“อาสาสมัคร” เป็นงานที่เกิดจากผู้ที่มี จิตอาสา ซึ่งมีความหมายอย่างมากกับสังคมส่วนรวม เป็นผู้ที่
เอื้อเฟื้อ เสียสละ เวลา แรงกาย แรงใจ เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น หรือสังคมให้เกิดประโยชน์และความสุขมากขึ้น
วารสาร จิต อาสา 33 ฉบับที่ 4 เดือน มกราคม ๒๕๖๖