Page 389 - เอกสารคำสอนทวารวดี - ศรีวิชัย
P. 389

ไม่เฉพาะปัจจัยหลักในด้านการเผยแผ่ศาสนาเท่านั้น เพราะการติดต่อค้าขาย
                       แลกเปลี่ยนระหว่างทวารวดีและศรีวิชัยก็คงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาด้วย เพราะทวารวดีมีบทบาท
                       เป็นเมืองอู่ข้าวอู่น ้าด้วยมีพื้นที่ราบลุ่มแม่น ้าอย่างกว้างขวางที่เหมาะสมในการท าเกษตรกรรม

                       (ปลูกข้าว) ขณะที่ศรีวิชัยและชุมชนที่เกี่ยวข้อง (เมืองไชยา, ทุ่งตึก, สทิงพระ, ยะรัง และบูจัง

                       วัลเลย์ในมาเลเซีย) ต่างมีฐานะเป็นเมืองท่าค้าขายชายฝั่งทะเล ซึ่งจะเชื่อมโยงไปยังเครือข่าย
                       การค้าโลกตามเส้นทางสายไหมทางทะเลที่เฟื่องฟูอย่างมากในช่วงพุทธศตวรรษที่ 14 – 15 และ
                       ช่วงนี้ก็ถือเป็นห้วงเวลาส าคัญแห่งการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบกับชุมชน

                       โบราณหลายแห่งทั้งในภาคกลาง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้

                              อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่าในระหว่างที่รัฐหรือบ้านเมืองทวารวดีและศรีวิชัย
                       เจริญรุ่งเรืองขึ้นนั้น อาณาจักรกัมพูชาโบราณก็มีความยิ่งใหญ่อยู่ในเขตที่ราบลุ่มทะเลสาบเขมร
                       (Tonle Sap) ด้วย กษัตริย์กัมพูชาโบราณต่างมีนโยบายในการครอบครองพื้นที่ทั้งในเขต

                       ประเทศเวียดนามและประเทศไทย (และลาว) ในปัจจุบัน เราจึงได้เห็นถึงลักษณะของ

                       การผสมผสานทางวัฒนธรรมระหว่างทวารวดี (ซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้คนที่ใช้ภาษามอญโบราณ) และ
                       เขมรโบราณโดยเฉพาะในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (และเมืองศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์)
                       ก่อนที่อาณาจักรกัมพูชาจะมีอ านาจมากจนสามารถครอบครองเมืองลพบุรีและภูมิภาคตะวันตก

                       ของไทยได้ในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 และพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ตามล าดับ

                              อิทธิพลทางการเมืองและวัฒนธรรมของเขมรโบราณในประเทศไทยนั้นไม่เพียงส่งผลต่อ
                       ชุมชนทวารวดีเดิมเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทในคาบสมุทรภาคใต้คือที่เมืองไชยา (ครหิ) และเมือง
                       นครศรีธรรมราช (ตามพรลิงค์) ด้วย โดยเฉพาะวัฒนธรรมทางพุทธศาสนานิกายมหายานสมัย

                       พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากรัฐตามพรลิงค์ได้มีการติดต่อสัมพันธ์กับ

                       ประเทศศรีลังกาสมัยโปลนนารุวะซึ่งเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ก็ได้น ามาซึ่ง
                       การเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่งในคาบสมุทรภาตใต้ อันส่งผลต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันดังจะ
                       เห็นได้จากความเลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชนชาวใต้ที่มีต่อองค์พระบรมธาตุเจดีย์

                       นครศรีธรรมราชนั่นเอง

                              อันที่จริงแล้ว การค้นคว้าทางโบราณคดีสมัยทวารวดีและศรีวิชัยยังมีประเด็นปัญหาอีก
                       มากที่รอการศึกษาอย่างละเอียดในอนาคต ด้วยการส ารวจหรือขุดค้นเพิ่มเติมทั้งในแหล่ง
                       โบราณคดีที่เคยศึกษามาก่อนและแหล่งใหม่ๆ รวมทั้งการใช้วิธีวิเคราะห์หรือแนวคิดทฤษฎีที่

                       เหมาะสมมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการแปลความ เพราะการศึกษาถึงพัฒนาการของ

                       ชุมชนหรือบ้านเมืองโบราณในสมัยนี้ย่อมท าให้เราเข้าใจความเป็นมาของสยามประเทศมาก
                       ยิ่งขึ้น ทั้งยังท าให้เรามองเห็นความเหมือน, ความแตกต่าง หรือความหลากหลายของผู้คนใน
                       อดีตบนผืนแผ่นดินไทยและภูมิภาคอาเซียนในสมัยโบราณได้ชัดเจนขึ้นด้วย









                                                               383
   384   385   386   387   388   389   390   391   392   393   394