Page 73 - คู่มือแผนการสอนเรื่องภัยพิบัติและการปกป้องคุ้มครองเด็ก ภายใต้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19
P. 73
ข้อมูลสสาหรับผู้สอน
วิธีสังเกตและป้องกัน
การล่วงละเมิดในเด็ก
การล่วงละเมิดทางเพศในเด็ก เป็นปัญหาที่อันตรายและร้ายแรง มักจะท�าร้ายสภาพจิตใจของเด็ก
ท�าให้มีสภาพจิตใจที่ไม่เป็นปกติส่งผลเสียต่อทั้งกาย จิตใจ ความสัมพันธ์ของครอบครัว ของโรงเรียน เพื่อน
ญาติ หรือแม้แต่สังคม
การให้ค�าแนะน�าส�าหรับพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเด็กเกี่ยวกับการล่วงละเมิดเป็นสิ่งที่ควรท�า เพราะ
นอกจากจะสามารถช่วยเด็กที่ถูกทารุณกรรมได้แล้ว ยังลดความเสี่ยงของการล่วงละเมิดในเด็กได้
1. สังเกตสัญญาณการถูกล่วงละเมิด สัญญาณทางกายที่มองเห็นได้ เช่น รอยฟกช�้าตามร่างกาย
ข้าวของส่วนตัวถูกท�าลาย ฯลฯ แต่มีสัญญาณที่มองไม่เห็น เช่น เด็กที่ถูกทารุณบ่อยครั้งมักจะ
แสดงอาการหวาดกลัว ตกใจง่าย วิตกกังวล ไม่ไว้วางใจพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม
เด็กเหล่านี้มักมีปัญหาในการเข้าหาเพื่อนใหม่ เข้าหาคนอื่น ๆ พฤติกรรมเหล่านี้เป็นสัญญาณ
ความผิดปกติที่ควรให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ
2. สังเกตการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม สังเกตพฤติกรรมที่แตกต่างจากปกติหรือมีการจดบันทึก
พฤติกรรม เช่น สังเกตเห็นว่าเด็ก มีอาการนอนไม่หลับ ไม่ค่อยกินอาหาร เก็บตัวอยู่คนเดียว
หรือเกิดอาการก้าวร้าว สัญญาณเหล่านี้ท�าให้เห็นว่าเขาก�าลังทุกข์ทรมานจากการถูกล่วงละเมิด
บางประเภท
3. สังเกตเด็กกลัวบ้านหรือกลัวการไปโรงเรียนหรือไม่ เมื่อสังเกตเห็นว่าเด็กไม่ยอมกลับบ้านหรือ
ไม่ยอมไปโรงเรียนและดูเหมือนว่าเขาจะกลัว เช่น กลัวว่าจะถูกท�าร้ายที่บ้าน กลัวการไปโรงเรียน
หรือกลัวการเดินทางไปไหนมาไหนกับคนบางคน พฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณว่าเขาก�าลัง
ถูกทารุณ
4. สังเกตเด็กหมกมุ่นเรื่องเพศมากเกินไป บ่อยครั้งที่เด็กที่ถูกทารุณทางเพศจะแสดงความรู้
เกี่ยวกับเพศมากขึ้นกว่าที่ควร เขาอาจแสดงพฤติกรรมทางเพศหรือใช้ภาษาที่ชัดเจนมากขึ้น
5. สังเกตอาการเปลี่ยนแปลงไปจากปกติ เนื่องจากเราไม่สามารถทราบได้ว่ามีเหตุการณ์อะไร
เกิดขึ้นกับเด็ก จึงควรสังเกตอาการหรือพฤติกรรมที่ต่างจากไปเดิมเพิ่มเติม เช่น น�้าหนักตัวลดลง
หรือหวาดผวามากยิ่งขึ้นแปลว่าเด็กก�าลังถูกล่วงละเมิดอย่างหนักจนเกิดความหวาดระแวงและ
ไม่อยากกินอาหาร เด็กจะเก็บตัว พูดน้อย ไม่กล้าสู้หน้าคนอื่น
71
รู้จักสิทธิเพื่อป้องกันตัวเองจากภัยใกล้ตัว
ส�าหรับช่วงชั้นที่ 2 (ประถมศึกษาปีที่ 4 - 6)