Page 21 - รายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล ปีที่ 4
P. 21

๖.๒.๒ การด าเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๕ เรื่อง การบริหารจัดการ

             การท างานของคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม เพื่อรองรับการฟื้นฟูประเทศภายหลัง

             การผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพื่อเป็นการผ่อนผันให้คนต่างด้าว
             กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีความส าคัญในการฟื้นฟูประเทศภายหลังสถานการณ์การระบาดของโรคคลี่คลาย

             ให้สามารถอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อท างานต่อไปได้อย่างถูกต้อง ส่งผลให้การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว
             เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการช่วยเหลือสนับสนุนให้กับนายจ้าง/สถานประกอบการที่ยังคงมีความต้องการ

             และมีความประสงค์จ้างแรงงานเหล่านั้นต่อไป โดยที่แรงงานยังคงอยู่ในการก ากับและบริหารจัดการของหน่วยงาน
             ภาครัฐ ทั้งในมิติความมั่นคงและการสาธารณสุข และเป็นผลให้คนต่างด้าวได้รับการจ้างงานโดยถูกต้องตามกฎหมาย

             ได้รับความคุ้มครองและมีสิทธิประโยชน์ สวัสดิการ และการคุ้มครองตามสิทธิที่พึงได้รับ โดยมีการอนุญาต

             ให้กลุ่มแรงงานที่อยู่ในราชอาณาจักรและท างานถึงวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ อยู่ในราชอาณาจักรและท างานได้
             ต่อไปไม่เกินวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ จ านวน ๑๔๕,๕๙๙ คน (ข้อมูล ณ วันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๕)

                       นอกจากนี้ ได้ด าเนินการออกเอกสารรับรองบุคคล (Certificate of Identity: CI) ของทางการเมียนมาให้แก่

             แรงงานเมียนมาที่ด าเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๕ จ านวน ๑๕๕,๒๕๑ คน เพื่อให้
             แรงงานเมียนมาที่มีเอกสารรับรองบุคคล (Certificate of Identity: CI) ฉบับเดิม และที่ไม่มีเอกสารประจ าตัว

             ได้รับสิทธิการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและการอนุญาตท างานโดยถูกต้องตามกฎหมาย ได้รับการคุ้มครอง

             และมีสิทธิประโยชน์สวัสดิการคุ้มครองตามสิทธิที่พึงได้รับ
                   ๖.๓ มาตรการการคลังที่รัฐบาลได้ด าเนินการเพื่อเยียวยาและฟื้นฟูผลกระทบจากการแพร่ระบาด

             ของโควิด-๑๙ และมาตรการเพื่อลดผลกระทบจากการปรับตัวขึ้นของราคาสินค้า
                       ๖.๓.๑ มาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศและเพิ่มก าลังซื้อให้แก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อย

             และประชาชนทั่วไป

                              ๑) โครงการเพิ่มก าลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรสวัสดิการฯ) เป็นการช่วยเหลือ
             วงเงินค่าซื้อสินค้าบริโภคอุปโภคที่จ าเป็นจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ) ให้แก่

             ผู้มีบัตรสวัสดิการฯ จ านวน ๑๔ ล้านคน โดยด าเนินงานอย่างต่อเนื่องมาแล้วรวม ๕ ระยะ เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยา
             และลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการฯ เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ (๑) ระยะที่ ๑ เดือนตุลาคม -

             ธันวาคม ๒๕๖๓ ช่วยเหลือในวงเงิน จ านวน ๕๐๐ บาทต่อคนต่อเดือน (๒) ระยะที่ ๒ เดือนมกราคม - มีนาคม ๒๕๖๔

             ช่วยเหลือในวงเงิน จ านวน ๕๐๐ บาทต่อคนต่อเดือน  (๓) ระยะที่ ๓ เดือนกรกฎาคม - ธันวาคม ๒๕๖๔ ช่วยเหลือ
             ในวงเงิน จ านวน ๒๐๐ บาทต่อคนต่อเดือน และระยะที่ ๓ เพิ่มเติม เดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๖๔ ช่วยเหลือ

             ในวงเงิน จ านวน ๓๐๐ บาทต่อคนต่อเดือน (๔) ระยะที่ ๔ เดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน ๒๕๖๕ ช่วยเหลือในวงเงิน

             จ านวน ๒๐๐ บาทต่อคนต่อเดือน และ (๕) ระยะที่ ๕ เดือนกันยายน - ตุลาคม ๒๕๖๕ ช่วยเหลือในวงเงิน จ านวน
             ๒๐๐ บาทต่อคนต่อเดือน

                              ๒) โครงการคนละครึ่ง เป็นโครงการที่ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับสิทธิภาครัฐ

             ร่วมจ่ายร้อยละ ๕๐ ส าหรับการซื้ออาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป บริการ (นวด สปา ท าผม ท าเล็บและบริการขนส่ง
             สาธารณะ) ไม่รวมถึงสลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ บัตรก านัล บัตรเงินสด และบริการรูปแบบอื่น ๆ

             ที่เป็นการช าระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า โดยจะต้องช าระเงินผ่านระบบช าระเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยภาครัฐ


               รายงานผลการดำำาเนินงานของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์์ จัันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปีที� ๔
               รายงานผลการด าเนินงานของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปีที่ ๔
                                                                                                           17
               (๒๕ กรกฎาคม - ๓๑ ธ์ันวาคม ๒๕๖๕)                                                          ๑๗
               (๒๕ กรกฎาคม - ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕)
   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26