Page 232 - คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป)
P. 232
- คำ�แปลอย่�งไม่เป็นท�งก�ร -
2. ภาคีผู้ส่งออกที่เกี่ยวข้องอาจร้องขอให้มีการหารือกับภาคีที่มีการใช้มาตรการฉุกเฉิน 6. ในส่วนของช่วงระยะเวลาให้ข้อคิดเห็นตามวรรค 5 ของข้อนี้ เมื่อมีการร้องขอจากภาคี
ตามวรรค 1 ของข้อนี้ ซึ่งการหารือดังกล่าวจะต้องจัดขึ้น โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะท าได้ ภาคีแต่ละฝ่าย อีกฝ่ายหนึ่ง และหากมีความเหมาะสมและมีความเป็นไปได้ ภาคีที่แจ้งมาตรการจะต้อง
ที่เข้าร่วมการหารือดังกล่าวจะต้องพยายามให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องและจะต้องน าข้อมูลที่ได้ พิจารณาข้อกังวลทางการค้าหรือทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ รวมทั้งทางเลือกที่มีอยู่ที่ภาคีอื่น
มาประกอบการหารือด้วย อาจหยิบยกขึ้นมาเกี่ยวกับมาตรการที่เสนอจะน ามาใช้
3. หากมีภาคีใดที่มีการใช้มาตรการฉุกเฉิน ภาคีนั้นจะต้องทบทวนมาตรการฉุกเฉินดังกล่าว 7. เมื่อมีการร้องขอ ภาคีฝ่ายหนึ่งจะต้องจัดหาเอกสารหรือสรุปใจความของเอกสารที่อธิบาย
ภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล หรือตามค าร้องขอของภาคีผู้ส่งออก และหากมีความจ าเป็น ข้อก าหนดของร่างมาตรการสุขอนามัยหรือสุขอนามัยพืชที่แจ้งต่อดับบลิว ที โอ ตามวรรค 4
ภาคีผู้น าเข้าอาจร้องขอข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และภาคีผู้ส่งออกจะต้องพยายามให้ข้อมูล ของข้อนี้ เป็นภาษาอังกฤษแก่ภาคีที่ร้องขอ ภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันร้องขอ
ที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยภาคีผู้น าเข้าในการทบทวนมาตรการฉุกเฉินดังกล่าว เมื่อมีการร้องขอ
ภาคีผู้น าเข้าจะต้องแจ้งผลการทบทวนดังกล่าวให้ภาคีผู้ส่งออกทราบ หากยังคงมีการใช้ 8. หลังจากที่มีการแจ้งมาตรการสุขอนามัยหรือสุขอนามัยพืชต่อดับบลิว ที โอ เมื่อมีการร้องขอ
มาตรการฉุกเฉินภายหลังการทบทวน ภาคีผู้น าเข้าควรทบทวนมาตรการฉุกเฉินดังกล่าว ภาคีฝ่ายหนึ่งจะต้องจัดหาเอกสารหรือสรุปสาระส าคัญของเอกสารที่อธิบายข้อก าหนด
เป็นระยะ ๆ บนพื้นฐานของข้อมูลล่าสุดที่สามารถหาได้ และเมื่อมีการร้องขอ ภาคีผู้น าเข้า ของมาตรการสุขอนามัยหรือสุขอนามัยพืชที่ได้น ามาใช้บังคับเป็นภาษาอังกฤษแก่ภาคี
จะต้องอธิบายเหตุผลของการยังคงใช้มาตรการฉุกเฉินนั้นต่อไป ที่ร้องขอ ภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผลตามที่กลุ่มภาคีที่เกี่ยวข้องเห็นชอบร่วมกัน
ข้อ 5.12: ความโปร่งใส 9. เมื่อมีการร้องขออย่างสมเหตุสมผลจากภาคีอีกฝ่ายหนึ่ง ภาคีฝ่ายหนึ่งจะต้องให้ข้อมูล
ที่เกี่ยวข้องและค าอธิบายให้กระจ่างแจ้งเกี่ยวกับมาตรการสุขอนามัยหรือสุขอนามัยพืช
1. กลุ่มภาคียอมรับความส าคัญของความโปร่งใสที่ก าหนดในภาคผนวกบี ของความตกลงเอส พี เอส แก่ภาคีที่ร้องขอ ภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล รวมทั้ง
2. กลุ่มภาคียอมรับความส าคัญของการแลกเปลี่ยนข้อมูลในการพัฒนา การก าหนด และการใช้บังคับ (เอ) ข้อก าหนดด้านสุขอนามัยหรือสุขอนามัยพืชที่ใช้บังคับกับการน าเข้าสินค้าชนิดนั้น
มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช ที่อาจมีผลกระทบต่อการค้าระหว่างภาคี
อย่างมีนัยส าคัญ (บี) สถานะการยื่นค าขอของภาคีที่ร้องขอ และ
3. ในการปฏิบัติตามข้อนี้ กลุ่มภาคีจะต้องค านึงถึงผลการตัดสินที่เกี่ยวข้องของคณะกรรมการ (ซี) กระบวนการในการอนุญาตการน าเข้าสินค้าชนิดนั้น
ดับบลิว ที โอ เอส พี เอส และมาตรฐาน แนวทางปฏิบัติ และค าแนะน าระหว่างประเทศ
10. ภาคีผู้ส่งออกจะต้องให้ข้อมูลที่เหมาะสมและทันเวลาแก่กลุ่มภาคีที่เกี่ยวข้อง ผ่านจุดติดต่อ
4. ภาคีแต่ละฝ่ายจะต้องแจ้งมาตรการสุขอนามัยหรือสุขอนามัยพืชที่เสนอจะน ามาใช้ ที่ระบุไว้ในข้อ 5.15 (จุดติดต่อและหน่วยงานผู้มีอ านาจ) หรือผ่านช่องทางติดต่อสื่อสาร
หรือที่มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการค้าของภาคีอื่น ๆ อย่างมีนัยส าคัญ ของกลุ่มภาคีที่มีอยู่เดิม เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยส าคัญของสถานะสุขภาพสัตว์หรือพืช
ผ่านระบบการแจ้งเวียนมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชทางออนไลน์ของดับบลิว ที โอ หรือประเด็นความปลอดภัยอาหารของภาคีผู้ส่งออกนั้น ๆ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการค้า
ผ่านจุดติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 5.15 (จุดติดต่อและหน่วยงานผู้มีอ านาจ) หรือผ่านช่องทาง
ติดต่อสื่อสารของกลุ่มภาคีที่มีอยู่เดิม 11. ภาคีผู้น าเข้าจะต้องให้ข้อมูลที่เหมาะสมและทันเวลาแก่ภาคีที่เกี่ยวข้อง ผ่านจุดติดต่อ
ที่ระบุไว้ในข้อ 5.15 (จุดติดต่อและหน่วยงานผู้มีอ านาจ) หรือผ่านช่องทางติดต่อสื่อสาร
5. เว้นแต่มีปัญหาเร่งด่วนในการปกป้องสุขภาพเกิดขึ้นหรือคุกคามว่าจะเกิดขึ้น ของกลุ่มภาคีที่มีอยู่เดิม ในกรณีที่
หรือมีมาตรการที่เป็นไปในลักษณะเพื่ออ านวยความสะดวกทางการค้า โดยทั่วไปขอให้
ภาคีฝ่ายหนึ่งจะต้องอนุญาตให้ภาคีอื่น ๆ มีช่วงระยะเวลาอย่างน้อย 60 วันในการ (เอ) ภาคีผู้น าเข้าพบว่าสินค้าที่ส่งออกมาไม่เป็นไปตามข้อก าหนดด้านสุขอนามัยหรือ
ให้ข้อคิดเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรหลังจากที่ภาคีดังกล่าวได้แจ้งประกาศมาตรการตามวรรค 4 สุขอนามัยพืชอย่างมีนัยส าคัญหรือเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
ของข้อนี้ ซึ่งภาคีฝ่ายหนึ่งนั้นจะต้องพิจารณาค าร้องขอที่สมเหตุสมผลจากภาคีอีกฝ่ายหนึ่ง
เพื่อขยายช่วงระยะเวลาการให้ข้อคิดเห็นดังกล่าว
5-8 5-9