Page 458 - คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป)
P. 458
- คำ�แปลอย่�งไม่เป็นท�งก�ร -
3. กระบวนการของคณะพิจารณาควรให้ความยืดหยุ่นอย่างเพียงพอเพื่อรับรองว่ารายงาน การรับฟัง
จะมีคุณภาพสูง โดยไม่ก่อให้เกิดความล่าช้าเกินควรต่อขั้นตอนการพิจารณาของคณะพิจารณา
10. ต่อเนื่องจากวรรค 4 และ 5 ตารางเวลาที่ก าหนดไว้โดยคณะพิจารณาจะต้องจัดให้มีการรับฟัง
ตารางเวลา อย่างน้อยหนึ่งครั้งส าหรับกลุ่มภาคีที่พิพาทเพื่อน าเสนอคดีของตนต่อคณะพิจารณา ตามกฎทั่วไป
ตารางเวลาจะต้องไม่จัดให้มีการรับฟังมากกว่าสองครั้ง เว้นแต่จะมีสภาวการณ์พิเศษ
4. หลังจากการปรึกษาหารือกับกลุ่มภาคีที่พิพาท คณะพิจารณาที่จัดตั้งตามข้อ 19.11 (การจัดตั้ง
หรือการรวมตัวของคณะพิจารณา) จะต้องก าหนดตารางเวลาส าหรับกระบวนการพิจารณา ความลับ
ของคณะพิจารณา โดยเร็วเท่าที่จะสามารถปฏิบัติได้ และถ้าเป็นไปได้ภายใน 15 วันนับจาก
การจัดตั้งคณะพิจารณาตามกฎทั่วไป ระยะเวลาจากวันที่จัดตั้งคณะพิจารณาจนถึงวันที่ 11. ค าให้การที่เป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะพิจารณาจะต้องได้รับการปฏิบัติเป็นความลับ
ออกรายงานฉบับสุดท้ายจะต้องไม่เกินเจ็ด (7) เดือน แต่จะต้องจัดให้กลุ่มภาคีที่พิพาทและกลุ่มภาคีฝ่ายที่สามเข้าถึงได้ตามที่ได้ก าหนด
ในข้อ 19.10 (กลุ่มภาคีฝ่ายที่สาม) กลุ่มภาคีที่พิพาท กลุ่มภาคีฝ่ายที่สาม และคณะพิจารณา
5. คณะพิจารณาที่รวมตัวตามข้อ 19.16 (การทบทวนการปฏิบัติตาม) หรือวรรค 13 ของข้อ 19.17 จะต้องถือเป็นข้อมูลลับ ข้อมูลซึ่งภาคีที่พิพาทหรือภาคีฝ่ายที่สามยื่นต่อคณะพิจารณา
(การชดเชยค่าเสียหายและการระงับสิทธิประโยชน์หรือพันธกรณีอื่น) จะต้องก าหนด ซึ่งภาคีนั้นก าหนดว่าเป็นความลับ เพื่อความแน่นอนมากยิ่งขึ้น ไม่มีสิ่งใดในวรรคนี้
ตารางเวลาส าหรับกระบวนการทบทวนการปฏิบัติตามค าชี้ขาด โดยเร็วเท่าที่จะสามารถ ที่จะขัดขวางไม่ให้ภาคีที่พิพาทหรือภาคีฝ่ายที่สามเปิดเผยค าแถลงของท่าทีของตน
ปฏิบัติได้ และถ้าเป็นไปได้ ภายใน 15 วันนับจากวันที่รวมตัว โดยค านึงถึงระยะเวลาที่ระบุไว้ ต่อสาธารณะ ตราบใดที่ไม่มีการเปิดเผยค าแถลงหรือข้อมูลที่ภาคีที่พิพาทหรือภาคีฝ่ายที่สาม
ในข้อ 19.16 (การทบทวนการปฏิบัติตาม) ได้ยื่นต่อคณะพิจารณาซึ่งภาคีนั้นก าหนดว่าเป็นความลับ เมื่อมีการร้องขอจากภาคี ภาคีที่พิพาท
หรือภาคีฝ่ายที่สามจะต้องให้สรุปที่ไม่ลับของข้อมูลที่อยู่ในค าให้การเป็นลายลักษณ์อักษร
กระบวนการของคณะพิจารณา ของตนที่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้
6. คณะพิจารณาจะต้องจัดท าผลการพิจารณาและการตัดสินโดยฉันทามติ แต่ในกรณีที่ ข้อมูลเพิ่มเติมและค าแนะน าทางเทคนิค
คณะพิจารณาไม่สามารถบรรลุฉันทามติได้ คณะพิจารณาอาจจัดท าผลการพิจารณา
และค าตัดสินโดยคะแนนเสียงข้างมาก ผู้พิจารณาอาจให้ความเห็นแย้งหรือความเห็น 12. ภาคีที่พิพาทแต่ละฝ่ายและภาคีฝ่ายที่สามแต่ละฝ่ายจะต้องตอบการร้องขอข้อมูลของ
แยกในเรื่องที่ไม่สามารถตกลงกันเป็นเอกฉันท์ ความเห็นที่แสดงโดยผู้พิจารณารายบุคคล คณะพิจารณาโดยทันทีและโดยสมบูรณ์ ตามที่คณะพิจารณาเห็นว่าจ าเป็นและเหมาะสม
ในรายงานจะต้องไม่เปิดเผยชื่อผู้ให้ความเห็น
13. เมื่อภาคีที่พิพาทร้องขอหรือโดยการริเริ่มของคณะพิจารณาเอง คณะพิจารณาอาจขอข้อมูล
7. การประชุมปรึกษาหารือของคณะพิจารณาจะต้องท าเป็นความลับ กลุ่มภาคีที่พิพาทและ และค าแนะน าทางเทคนิคเพิ่มเติมจากบุคคลหรือหน่วยงานใด ๆ ซึ่งคณะพิจารณาเห็นว่า
ภาคีฝ่ายที่สามจะเข้าร่วมได้เมื่อได้รับเชิญจากคณะพิจารณาให้ปรากฏต่อหน้าตนเท่านั้น เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ก่อนกระท าการดังกล่าว คณะพิจารณาจะต้องถามความเห็น
ของกลุ่มภาคีที่พิพาท หากกลุ่มภาคีที่พิพาท ตกลงว่าคณะพิจารณาไม่ควรหาข้อมูล
8. ห้ามไม่ให้มีการติดต่อสื่อสารฝ่ายเดียวกับคณะพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องที่อยู่ภายใต้ หรือค าแนะน าทางเทคนิคเพิ่มเติม คณะพิจารณาจะต้องไม่กระท าการดังกล่าว
การพิจารณาของคณะพิจารณา คณะพิจารณาจะต้องให้ข้อมูลหรือค าแนะน าทางเทคนิคเพิ่มเติมใด ๆ ที่ได้รับแก่กลุ่มภาคี
ที่พิพาท และให้โอกาสในการให้ความคิดเห็น หากคณะพิจารณาใช้ข้อมูลหรือค าแนะน า
ค าให้การ ทางเทคนิคเพิ่มเติมประกอบการจัดท ารายงาน คณะพิจารณาจะต้องค านึงถึงความเห็นใด
ของกลุ่มภาคีที่พิพาทต่อข้อมูลหรือค าแนะน าทางเทคนิคเพิ่มเติมด้วย
9. ภาคีที่พิพาทแต่ละฝ่ายจะต้องมีโอกาสเสนอข้อเท็จจริงของคดี ข้อโต้แย้ง และข้อโต้แย้งกลับ
เป็นลายลักษณ์อักษร ต่อเนื่องจากวรรค 4 และ 5 ตารางเวลาที่ก าหนดไว้โดยคณะพิจารณา
จะต้องรวมถึงก าหนดเวลาสุดท้ายที่ชัดเจนส าหรับการยื่นค าให้การโดยกลุ่มภาคีที่พิพาท
และภาคีฝ่ายที่สาม
19-13 19-14