Page 44 - วิศวกรรมสาร ปีที่ 76 ฉบับที่ 2 เมษายน - มิถุนายน 2566
P. 44
รศ.ดร.สมิตร ส่งพิริยะกิจ
ปลายปี 2565 ที่ผ่านมาหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติออกรายงาน (Buildings-GSR) ว่ากลุ่ม
อุตสาหกรรมการใช้งานอาคารและการก่อสร้างปล่อย CO สร้างนิวไฮมากถึง 10 กิกะตันในปีที่ผ่านมา โดยปล่อยเพิ่มขึ้น
2
จากปี 2563 ถึงร้อยละ 5 และจากข้อมูลประกอบอื่นๆ เช่นการใช้พลังงานเพื่อปรับอากาศ ไฟฟ้าแสงสว่างก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
เหล่านี้ท�าให้อนุมานได้ว่าเป้าหมายการลดการปล่อย CO ภายในปี 2593 ห่างไกลออกไปอย่างสิ้นเชิง หลาย ๆ บทความ
2
o
ในต่างประเทศ เตือนภัยขั้นรุนแรงให้ประชากรโลกเตรียมรับมือกับอุณหภูมิที่จะสูงขึ้นภายในปี 2593 ถึง 2.8 C จากเป้าหมาย
1.5 C ที่ข้อตกลงปารีส (COP21) ได้ก�าหนดไว้
o
แนวโน้มการออกแบบโครงสร้างอาคาร
เพื่อลดการปล่อย CO
2
ส�าหรับในประเทศไทย เรามีกฎกระทรวงเกณฑ์การออกแบบ มอก.15-2555 จึงน�าไปสู่ความส�าเร็จแรกในการบรรลุเป้าหมาย
อาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน หรือ Building Energy Code : ลดการปล่อย CO ได้กว่า 3 แสนตัน ในปี 2564 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมาย
2
BEC เพื่อเป็นมาตรฐานบังคับใช้กับอาคารขนาดใหญ่ ที่มีการใช้ NDC Roadmap ถึง 9 ปี นอกจากนี้ TCMA ยังวางเป้าหมายใหม่
พลังงานสูง ด้วยการก�าหนดมาตรฐานและหลักเกณฑ์และวิธีการ ในการลดการปล่อย CO ให้ได้อีก 1 ล้านตัน ในปี 2566 อีกด้วย
2
ออกแบบอาคาร เพื่อให้อาคารมีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ความคืบหน้าดังกล่าวค่อนข้างชัดเจนที่จะท�านายได้ว่าอุตสาหกรรม
ในปี พ.ศ. 2563 และบังคับใช้ไปแล้วตั้งแต่ มีนาคม 2564 กับ ปูนซีเมนต์ของไทยจะสามารถลดการปล่อย CO ได้ 30.3 ล้านตัน
2
อาคารขนาด 10,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) ต่อมาในปี 2565 ก็บังคับ ภายในปี 2593
ใช้กับอาคารสร้างใหม่ขนาด 5,000 ตร.ม.ขึ้นไป และต้นปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การที่ผู้ผลิตปูนซีเมนต์จะสามารถลดการปล่อย
อาคารขนาดตั้งแต่ 2,000 ตร.ม. ก็ถูกบังคับใช้เรียบร้อยแล้วเช่นกัน CO ได้ตามเป้าหมาย ก็ไม่ได้หมายความว่าภาระกิจการก้าวเข้าสู่
2
กฎกระทรวงเกณฑ์การออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์ NET ZERO จะเสร็จสมบูรณ์ ถ้าเราดูจากภาพที่ 1 จะเห็นได้ว่า
พลังงานนี้ ได้ก�าหนดให้อาคารที่จะก่อสร้างใหม่หรือดัดแปลง ภาคการผลิตปูนซีเมนต์และคอนกรีตสามารถลดการปล่อย CO
2
ครอบคลุมอาคารขนาดใหญ่ 9 ประเภท เช่น โรงแรม โรงหนัง รวมกันได้ประมาณร้อยละ 30 เท่านั้น อีกร้อยละ 70 ที่เหลือยัง
โรงพยาบาล โรงเรียน ฯลฯ ที่มีขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 2,000 ตร.ม. ขึ้นไป คงต้องอาศัยกลไกอื่นร่วมด้วย อาทิ การดักจับ การกักเก็บ การ
ต้องออกแบบให้เป็นไปตามเกณฑ์ประสิทธิภาพพลังงานขั้นต�่า เปลี่ยนรูป ฯลฯ ซึ่งอาจจะต้องรอเทคโนโลยีในอนาคต หรือมีราคา
เช่นระบบเปลือกอาคาร ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง ระบบปรับอากาศ แพงเมื่อเทียบกับการจัดการ CO ด้วยวิธีอื่น ๆ
2
ระบบผลิตน�้าร้อน และการใช้พลังงานหมุนเวียน อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่อุตสาหกรรมการก่อสร้างโดยเฉพาะอย่างยิ่งในงาน
การตระหนักถึงการลดการปล่อย CO และเป้าหมายการเข้าสู่ วิศวกรรมโยธายังค�านึงถึงไม่มากพอ คือการออกแบบที่ค�านึงถึง
2
NET ZERO ภายในปี 2593 ยังไม่เป็นที่รับทราบกันอย่างทั่วไปใน การลดการปล่อย CO ตลอดช่วงอายุขององค์อาคารตั้งแต่เริ่มการ
2
วงการวิชาชีพวิศวกร ก่อสร้างจนถึงวันที่ต้องรื้อถอน ทั้งในแง่การออกแบบโครงสร้างและ
เรือธงใหญ่ส�าหรับการลดการปล่อย CO ส�าหรับอุตสาหกรรม การบริหารการปล่อย CO ระหว่างการก่อสร้าง ค�าแนะน�าหลัก ๆ
2 2
ก่อสร้างในบ้านเราคือสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) ของการลดการปล่อย CO ส�าหรับอุตสาหกรรมการก่อสร้างก็
2
ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกจากผู้ผลิตปูนซีเมนต์ทุก ๆ บริษัท ใน คือ ประการแรก ให้เลือกใช้วัสดุที่ปล่อย CO น้อยจากการผลิต
2
ประเทศไทย TCMA ได้ผลักดันการใช้งานปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก ประการที่สอง คือเลือกวัสดุในท้องถิ่นที่มีการขนส่งสะดวก ประการ
ตาม มอก. 2594-2556 เพื่อทดแทนปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ตาม ที่สามคือการลดของเสียโดยการออกแบบที่ดี แม่นย�า และใช้ช่าง
44 วิศวกรรมสาร
ปีที่ 76 ฉบับที่ 2 เมษายน - มิถุนายน 2566