Page 125 - ทวารวดี ประตูสู่การค้าบนเส้นทางสายไหมทางทะเล
P. 125
ราชส านัก ดังนั้นแนวคิดของไวษณพนิกายที่ยกย่องพระวิษณุจึงมีส่วนต่อการ
วางรากฐานในการปกครองระบอบกษัตริย์ของรัฐหรืออาณาจักรโบราณต่างๆ ใน
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดูใน Pierre-Yves Manguin, “Pan-Regional Response
to South Asian Inputs in Early Southeast Asia,” in 50 Years of Archaeology
in Southeast Asia: Essays in Honour of Ian Glover, eds. by Bérénice
Bellina et al. (Bangkok: River Books, 2010), 174-175.
67
พิริยะ ไกรฤกษ์, ศิลปทักษิณก่อนพุทธศตวรรษที่ 19, 41-42, รูปที่
17 และ 19. ดูเปรียบเทียบกับพระพุทธรูปรุ่นเก่าที่พบในเขตเวียดนามใต้ได้ใน
Malleret, L’archéologie du delta du Mékong: Tome IV, PL.XXIX, XXXI,
XXXIII, XXXIV.
68
Jacq-Hergoualc’h 2002, The Malay Peninsula: Crossroad of
the Maritime Silk Road (100 BC–1300 AD), 30–50 ; Leonard Y. Andaya,
Leaves of the Same Tress: Trade and Ethnicity in the Strait of Melaka
(Honolulu: University of Hawai’i Press, 2008), 30–33.
69
ภิกษุฟาเหียนบันทึกถึงสภาพการค้าซึ่งส่งผลต่อพัฒนาการของ
บ้านเมืองที่สิงหลไว้อย่างน่าสนใจว่า “ที่นครนี้แต่เดิมไม่มีผู้คนพลเมือง มีอยู่แต่
พวกรากษสกับนาคทั้งนั้น ซึ่งพ่อค้าเมืองต่างๆ น าสิ่งของมาแลกเปลี่ยนค้าขาย
เมื่อจะท าการค้าขายแลกเปลี่ยนที่นี่ พวกรากษสจะไม่ส าแดงตัวเอง (ออกมาให้
เห็น) แต่จะน าสินค้าสิ่งของอันมีค่าประเสริฐทั้งหลายมาวางไว้โดยเฉพาะ และติด
ฉลากบอกก าหนดราคาไว้กับสิ่งของนั้นๆ เมื่อพ่อค้ายอมรับซื้อตามราคานั้น ก็เอา
สิ่งของเหล่านั้นไปได้ พวกพ่อค้าทั้งหลายทั่วไปได้มา (ในทางนี้) และเมื่อเขา
เหล่านั้น (กลับ) ไปแล้ว ชาวบ้านราษฎรแห่งนครต่างๆ (เหล่านั้นได้ทราบว่า)
ดินแดนแห่งนี้มีความสุขสบายประการใด ต่างก็รวบรวมชนกันมาอยู่ที่นี่เป็นจ านวน
มากมาย จนกระทั่งกลายเป็นประชาชาติใหญ่ขึ้น....” ดูใน พระยาสุรินทรฦๅชัย
(จันทร์ ตุงคสวัสดิ), แปลและเรียบเรียง, จดหมายเหตุแห่งพุทธอาณาจักรของ
พระภิกษุฟาเหียน, พิมพ์ครั้งที่ 2 (พระนคร: มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย, 2506),
190.
114