Page 233 - ทวารวดี ประตูสู่การค้าบนเส้นทางสายไหมทางทะเล
P. 233
ส่วนการวิเคราะห์ต าแหน่งของตลาดการค้าส าคัญอื่นๆ ในล าดับ
แรกนี้ผู้เขียนจะเริ่มพิจารณาจากโบราณวัตถุที่สะท้อนให้เห็นถึงตัวตนของ
พ่อค้าต่างชาติ (รูปบุคคลสวมหมวกทรงสูง และ/หรือ สวมรองเท้าบูท)
ซึ่งปรากฏ ณ เมืองโบราณ 4 แห่งเท่านั้น ได้แก่ เมืองนครปฐมโบราณ เมือง
อู่ทอง เมืองคูบัว และเมืองจันเสน แต่ที่เมืองจันเสนพบหลักฐานเป็นเพียง
ตราดินเผาขนาดเล็กที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย เหตุนี้ช่างศิลปกรรมชาว
ทวารวดีตามเมืองโบราณ 3 แห่งทางตะวันตกของลุ่มแม่น ้าเจ้าพระยาคงมี
ความคุ้นเคยกับพ่อค้า (นักเดินเรือ ?) ที่เดินทางเข้ามา จึงได้ปั้นภาพของ
ชาวต่างชาติไว้ประดับตามศาสนสถานของตน ดังนั้นตลาดการค้าส าคัญ
ในสมัยทวารวดีคงประกอบด้วย เมืองนครปฐมโบราณ เมืองอู่ทอง
และเมืองคูบัว ซึ่งเป็นเมืองแกนกลางของวัฒนธรรมสมัยทวารวดี
นั่นเอง
ต่อมาเมื่อพิจารณาถึงรายชื่อเมืองโบราณที่พบเหรียญตราจาก
ต่างประเทศก็ประกอบด้วยเมืองศรีมโหสถ (เหรียญจีนสมัยราชวงศ์ถัง) และ
เมืองอู่ทอง (เหรียญอาหรับสมัยอับบาสิยะฮ์) ซึ่งเป็นสถานที่ค้นพบเครื่อง
ถ้วยจีนและเครื่องเคลือบสีฟ้าแกมเขียวจากตะวันออกกลาง ดังนั้นเมือง
ศรีมโหสถที่ตั้งอยู่ฟากตะวันออกของแม่น ้าเจ้าพระยาในลุ่มแม่น ้า
บางปะกงอาจเป็ นตลาดส าคัญอีกแห่งหนึ่งในสมัยทวารวดี
เช่นเดียวกับที่เมืองดงละคร ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากเมืองศรีมโหสถที่ได้พบ
ชิ้นส่วนเครื่องถ้วยจีนหลากหลายประเภท (รวมทั้งเครื่องเคลือบจาก
ตะวันออกกลาง) ก็น่าจะเป็นตลาดอีกแห่งหนึ่งด้วยก็เป็นได้
ผู้เขียนสันนิษฐานว่า บทบาทหรือความส าคัญของตลาดการค้า
3 แห่ง คือ เมืองนครปฐมโบราณ เมืองอู่ทอง และเมืองคูบัว คงมีมากกว่า
เมืองโบราณแถบภาคตะวันออกของประเทศ (รวมทั้งเมืองอื่นๆ ที่พบ
โบราณวัตถุประเภทสินค้าที่มาจากต่างถิ่นด้วย) คืออาจมีฐานะเป็นเมืองท่า
หลักหรือศูนย์กลางการค้า เพราะพบหลักฐานของพ่อค้าต่างชาติจาก 3 เมือง
222