Page 236 - ทวารวดี ประตูสู่การค้าบนเส้นทางสายไหมทางทะเล
P. 236
ช็อง บวสเซอลิเย่ร์ น าเสนอผลการก าหนดอายุเจดีย์จุลประโทน
47
ว่ามีการก่อสร้างอย่างน้อย 3 ครั้ง ได้แก่
การก่อสร้างครั้งที่ 1 – มีการสร้างพระเจดีย์พร้อมกับลานทักษิณ
มีบันไดขึ้นลง 4 ด้าน มีลวดลายเครื่องประดับท าด้วยดินเผา ก าหนดอายุอยู่
ในราวพุทธศตวรรษที่ 12–13 ระยะนี้เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาเถรวาท
การก่อสร้างครั้งที่ 2 – มีการปรับเปลี่ยนท าให้ลานทักษิณหายไป
และเพิ่มลวดลายเครื่องประดับปูนปั้น ก าหนดอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่
14-15 และแสดงให้เห็นอิทธิพลของพุทธศาสนามหายานจากศิลปะศรีวิชัย
การก่อสร้างครั้งที่ 3 – ระยะนี้คงเกิดจากการเปลี่ยนแปลง
กลับไปนับถือพุทธศาสนาเถรวาท จึงมีการก่อฐานขึ้นใหม่ซึ่งปิดทับภาพ
ปูนปั้นของเดิมเอาไว้ พร้อมกันนั้นก็มีการวางอิฐฤกษ์ จากลักษณะลวดลาย
ที่แกะสลักบนอิฐฤกษ์ (ลายก้านขด-ลายพันธุ์พฤกษา) ท าให้สามารถก าหนด
ได้ว่าน่าจะมีอายุอยู่ในช่วงต้นหรือกลางพุทธศตวรรษที่ 15
จากข้อมูลข้างต้นท าให้เราอาจสันนิษฐานได้ว่าชิ้นส่วนยอด
ไม้เท้าหรือขักขระน่าจะเป็นโบราณวัตถุที่มีอายุอยู่ในช่วงสมัยที่ 2 และที่
เจดีย์จุลประโทนแห่งนี้เองที่พบภาพสลักใบหน้าชาวมุสลิมบนแผ่นอิฐซึ่งก็
น่าจะมีอายุอยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 14–15 อันเป็นห้วงเวลาที่ชาวมุสลิม
ควบคุมการค้าทางทะเลในมหาสมุทรอินเดียและทะเลจีนใต้ด้วย
เมื่อไม่นานมานี้มีการขุดค้นกู้แหล่งเรือจมซิเรบอน (Cirebon)
ในทะเลชวา (Java sea) ที่ประเทศอินโดนีเซีย ก าหนดอายุราวพุทธศตวรรษ
ที่ 16 (ตรงกับสมัยห้าราชวงศ์สิบอาณาจักร หรือภายหลังจากราชวงศ์ถัง
ล่มสลายได้ไม่นาน) ได้พบเครื่องถ้วยจีนเป็นจ านวนมาก (ประมาณ 205,000
ชิ้น ซึ่งส่วนใหญ่มาจากแหล่งเตาในมณฑลเจ้อเจียง ฝูเจี้ยน และกว่างตง)
รวมทั้งได้พบประติมากรรมส าริดของพุทธศาสนานิกายมหายาน (รูปเทพี
48
Vajraraga) วัชระ กระดิ่ง (ฆัณฏา) และยอดไม้เท้าหรือขักขระ (ภาพที่ 86)
ดังนั้นการค้าเครื่องถ้วยจีนตามเส้นทางสายไหมทางทะเลในระยะนี้ยังคง
225