Page 243 - ทวารวดี ประตูสู่การค้าบนเส้นทางสายไหมทางทะเล
P. 243
เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าศูนย์กลางที่แท้จริงของพุทธศาสนา
มหายานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในยุคนั้นอยู่ที่เกาะชวาและเกาะสุมาตรา
หรือภายในขอบเขตของราชวงศ์ไศเลนทร์แห่งศรีวิชัย ไม่เพียงแต่พุทธสถาน
อันใหญ่โตเท่านั้น แต่ยังเป็นต้นแบบทางคติความเชื่อและศิลปกรรมที่ส่ง
อิทธิพลให้กับประเทศอื่นๆ ด้วย โดยนักวิชาการบางท่านสันนิษฐานว่า
คติความเชื่อของพุทธศาสนามหายานที่ปรากฏ ณ รัฐจามปาน่าจะเกิดขึ้น
58
จากความสัมพันธ์กับอาณาจักรในประเทศอินโดนีเซีย จารึกจากดงเดือง
(พ.ศ. 1454) ยังได้กล่าวถึงพระญาติของพระมเหสีของพระเจ้าชัยสิงหวรมัน
ที่ 1 (ครองราชย์เมื่อ พ.ศ. 1441–1446) ได้เดินทางไปแสวงบุญยังเกาะชวา
59
ถึง 2 ครั้ง แม้กระทั่งประติมากรรมส าริดรูปพระโพธิสัตว์บางองค์ในศิลปะ
สมัยก่อนเมืองพระนครของประเทศกัมพูชา ก็มีรูปแบบศิลปะใกล้เคียงกับรูป
60
พระโพธิสัตว์ในศิลปะศรีวิชัยด้วย
สภาพการณ์ข้างต้นนี้ย่อมส่งผลกระทบกับภาคกลางประเทศไทย
ในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย ช็อง บวสเซอลิเย่ร์ ได้เคยระบุถึงอิทธิพลของศิลปะ
ศรีวิชัยในช่วงพุทธศตวรรษที่ 14–15 ซึ่งปรากฏขึ้น ณ สถาปัตยกรรมที่เมือง
อู่ทอง เพราะในการขุดแต่งเจดีย์หมายเลข 15 และ 28 ได้พบอาคารจ าลอง
61
เป็นจ านวนมากซึ่งคล้ายกับลักษณะดั้งเดิมของพระบรมธาตุไชยา ลวดลาย
62
ปูนปั้นบางประเภทก็แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของศิลปะศรีวิชัย ที่ส าคัญคือ
ในการขุดแต่งเจดีย์หมายเลข 15 เมืองอู่ทอง ยังได้พบพระพิมพ์ดินดิบมี
63
จารึกอักษรเทวนาครี ตามแบบประเพณีการสร้างพระพิมพ์ของศรีวิชัยด้วย
(ภาพที่ 91)
จากข้อสันนิษฐานของ ช็อง บวสเซอลิเย่ร์ ที่เชื่อมโยง “ทวารวดี”
กับ “ศรีวิชัย” ผ่านศิลปกรรมทางพุทธศาสนา เราก็อาจพอมองเห็นภาพที่คง
จะด าเนินไปควบคู่กันของการติดต่อค้าขายแลกเปลี่ยนระหว่างสองดินแดนนี้
ได้ เพราะถ้าหากพิจารณาจากเส้นทางการเดินเรือของพ่อค้า/นักเดินเรือ
ต่างชาติโดยเฉพาะที่มาจากตะวันออกกลางก็จะให้ความส าคัญกับดินแดนใน
232