Page 245 - ทวารวดี ประตูสู่การค้าบนเส้นทางสายไหมทางทะเล
P. 245
ดังนั้นศรีวิชัยหรือเมืองท่าร่วมสมัยแห่งต่างๆ ในคาบสมุทรมลายู
คงท าหน้าที่เป็นพ่อค้าคนกลางในการรับซื้อสินค้าจากจีนและตะวันออกกลาง
ซึ่งน่าจะมีสินค้าบางส่วนที่กระจายต่อหรือส่งผ่านขึ้นมายังทวารวดีในภาค
กลางของประเทศไทย เห็นได้จากปริมาณของลูกปัดแก้ว เครื่องถ้วยจีน และ
เครื่องเคลือบสีฟ้าแกมเขียวจากตะวันออกกลาง ซึ่งได้ค้นพบเป็นจ านวนมาก
ตามเมืองท่าในภาคใต้ ทั้งที่แหลมโพธิ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และทุ่งตึก
จังหวัดพังงา แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าการค้นพบแหล่งเรือจมพนมสุรินทร์ที่จังหวัด
สมุทรสาครเมื่อไม่นานมานี้ท าให้เราไม่อาจมองข้ามบทบาทของเรือสินค้า
แบบอาหรับที่ได้ล่องเข้ามายังภาคกลางของไทยโดยตรง แม้ว่าเอกสารจีน
และบันทึกของพ่อค้า/นักเดินเรือจะไม่เคยเอ่ยถึงการล่องเรือสินค้าเข้ามาใน
เส้นทางนี้เลยก็ตาม
โดยสรุปแล้วสภาพการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในน่านน ้ามหาสมุทร
อินเดียและทะเลจีนใต้ตามเส้นทางสายไหมทางทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 13–15 ได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นหลายอย่าง
ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นั่นคือ มีศูนย์กลางของพุทธศาสนามหายาน
เกิดขึ้น และมีการแพร่หลายของคติความเชื่อและรูปแบบทางศิลปกรรมอย่าง
กว้างขวาง ความเคลื่อนไหวนี้ด าเนินไปคู่กับกิจกรรมทางเศรษฐกิจการค้า
ซึ่งเรือสินค้าที่เดินล่องจากตะวันออกกลางไปจีน (และในเที่ยวกลับ)
ได้น าเอาสินค้าจากต่างประเทศ เช่น เครื่องถ้วย และลูกปัดแก้ว เข้ามาสู่
เมืองท่าหรือตลาดการค้าต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งทวารวดี
ในภาคกลางของประเทศไทย และคงมีการกระจายสินค้าดังกล่าวต่อเข้าไป
ยังชุมชนตอนในแผ่นดิน (ในกรณีทวารวดีมีตัวอย่างชุมชนตอนในที่ดีที่สุด
คือ เมืองศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์) เพื่อแลกเปลี่ยนกับสินค้าพื้นเมือง
เช่น ข้าว หรือของป่า อันเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ
234