Page 18 - ข่าวเนติบัณฑิตยสภา เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๗ ปีที่ ๓๗ ฉบับที่ ๔๒๐

แพู่ง มาติรา 20 ติรี ลืงวันที� 9 พูฤศจิกายน 2563 (12) กรณีศาลืมีคำาสั�งแติ่งติั�งผู้ประนีประนอม
2.องค์ประกอบัการไกลื่เกลืี�ยก่อนฟั้องติาม แลื้วแติ่การไกลื่เกลืี�ยสิ�นสุดลืงโดยไม่เป็นผลื หากปรากฏ์ว่า
ป.วิ.แพู่ง มาติรา 20 ติรี อายุความครบักำาหนดไปแลื้วหลืังจากย้�นคำาร้องหร้อ
(1) ก่อนมีการย้�นฟั้องคดีแพู่ง บัุคคลืที�จะเป็น จะครบักำาหนดภายใน 60 วันนับัแติ่วันที�การไกลื่เกลืี�ย
คู่ความอาจย้�นคำาร้องติ่อศาลืที�มีเข่ติอำานาจหากมีการ สิ�นสุดลืง ให้อายุความข่ยายออกไปอีก 60 วันนับัแติ่วันที�
ฟั้องคดีนั�น เพู้�อข่อให้ศาลืแติ่งติั�งผู้ประนีประนอมทำาหน้าที� การไกลื่เกลืี�ยสิ�นสุดลืง
ไกลื่เกลืี�ยให้คู่กรณีที�เกี�ยวข่้องได้ติกลืงหร้อประนีประนอม 3. องค์ประกอบัข่้อกำาหนดข่องประธานศาลืฎีกาว่า
ยอมความกันในข่้อที�พูิพูาท ด้วยการไกลื่เกลืี�ยก่อนฟั้อง พู.ศ. 2563
(2) สำาหรับัคำาร้องข่อไกลื่เกลืี�ยก่อนฟั้องนั�น (1) ประเภทคดีที�ไกลื่เกลืี�ยก่อนฟั้องได้
ติ้องปรากฏ์ช้�อ แลืะภูมิลืำาเนาข่องคู่กรณีที�เกี�ยวข่้อง (1.1) คดีแพู่งทุกประเภทไม่จำากัดจำานวนทุนทรัพูย์ (๓)
รวมทั�งรายลืะเอียดข่องข่้อพูิพูาท (1.2) คดีแพู่งอ้�นที�กฎหมายกำาหนดให้นำาประมวลื
(3) เม้�อศาลืพูิจารณาคำาร้อง แลืะเห็นเป็น กฎหมายวิธีพูิจารณาความแพู่งไปใช้บัังคับั
การสมควร ศาลืจะรับัคำาร้องนั�นไว้แลื้วดำาเนินการสอบัถาม (1.3) คดีผู้บัริโภค
ความสมัครใจข่องคู่กรณีอีกฝ่ายหน่�งในการเข่้าร่วมการ (1.4) คดีแพู่งที�อยู่ในอำานาจพูิจารณาพูิพูากษา
ไกลื่เกลืี�ย หากคู่กรณีอีกฝ่ายหน่�งยินยอมเข่้าร่วมการ ข่องศาลืชำานัญพูิเศษ รวมถ่งคดีที�อยู่ในอำานาจพูิจารณา
ไกลื่เกลืี�ย ให้ศาลืมีอำานาจเรียกคู่กรณีที�เกี�ยวข่้องมาศาลื ข่องศาลืเยาวชนแลืะครอบัครัวด้วย
ด้วยตินเอง (2) ลืักษณะคดีที�ไม่สามารถข่อให้ไกลื่เกลืี�ย
(4) คู่กรณีจะมีทนายความมาศาลืด้วยหร้อไม่ก็ได้ ก่อนฟั้องได้ (๔)
(5) ศาลืจะแติ่งติั�งผู้ประนีประนอมดำาเนินการ (2.1) เม้�อมีเหติุอันควรเช้�อว่าการย้�นคำาร้องเป็นไป
ไกลื่เกลืี�ยติ่อไปโดยให้นำาวิธีการไกลื่เกลืี�ยหลืังฟั้องติาม โดยไม่สุจริติหร้อมีเจตินาเอาเปรียบัคู่กรณีหร้อบัุคคลือ้�น
ป.วิ.แพู่ง มาติรา 20 ทวิ มาใช้บัังคับัโดยอนุโลืม (2.2) เม้�อปรากฏ์ว่ามีการนำาเอาข่้อพูิพูาทติาม
(6) ถ้าคู่กรณีที�เกี�ยวข่้องสามารถติกลืงหร้อ คำาร้องไปย้�นฟั้องเป็นคดีแพู่งติ่อศาลืใดศาลืหน่�งไว้แลื้ว
ประนีประนอมยอมความกันได้ให้ผู้ประนีประนอมเสนอ โดยคู่กรณีทั�งสองเป็นคู่ความในคดีนั�น
ข่้อติกลืงหร้อสัญญาประนีประนอมยอมความติ่อศาลื (2.3) เม้�อปรากฏ์ว่าข่้อพูิพูาทติามคำาร้องเคยได้รับั
(7) หากศาลืพูิจารณาแลื้วเห็นว่าข่้อติกลืงหร้อ การดำาเนินการไกลื่เกลืี�ยติามข่้อกำาหนดนี�แลื้วแติ่ไม่เป็นผลื
สัญญาประนีประนอมยอมความเป็นไปติามเจตินาข่อง เว้นแติ่พูฤติิการณ์เปลืี�ยนแปลืงไป โดยระบัุพูฤติิการณ์
คู่กรณี หลืักแห่งความสุจริติ เป็นธรรม แลืะไม่ฝ่าฝืนติ่อ เช่นว่านั�นมาในคำาร้อง
กฎหมาย ก็ให้คู่กรณีลืงลืายม้อช้�อในข่้อติกลืงหร้อสัญญา (2.4) เม้�อพูิจารณาถ่งพูฤติิการณ์หร้อลืักษณะ
ประนีประนอมยอมความนั�น ข่องข่้อพูิพูาทแลื้วไม่เป็นสาระที�จะดำาเนินการไกลื่เกลืี�ย
(8) คู่สัญญาอาจร้องข่อให้ศาลืมีคำาพูิพูากษา (3) การย้�นคำาร้องข่อไกลื่เกลืี�ยก่อนฟั้อง แลืะ
ติามข่้อติกลืงหร้อสัญญาประนีประนอมยอมความได้โดย ผู้มีหน้าที�รับัคำาร้อง
ให้แสดงเหติุผลืความจำาเป็นติ่อศาลื (3.1) เจ้าหน้าที�ศูนย์ไกลื่เกลืี�ยประจำาศาลืมีหน้าที�
(9) หากศาลืเห็นว่ามีความจำาเป็นสมควรจะมี ติรวจรับัคำาร้องแลืะให้คำาแนะนำาแก่ผู้ย้�นคำาร้อง
คำาพูิพูากษาก็ให้ศาลืมีคำาพูิพูากษาไปติามข่้อติกลืงหร้อ (3.2) คำาร้องให้ทำาเป็นหนังส้อโดยระบัุช้�อแลืะ
สัญญาประนีประนอมยอมความดังกลื่าวได้โดยให้นำาความ ภูมิลืำาเนาข่องคู่กรณีที�เกี�ยวข่้องรวมทั�งรายลืะเอียดข่อง
ติาม ป.วิ.แพู่ง มาติรา 138 มาใช้บัังคับัโดยอนุโลืม ข่้อพูิพูาท โดยอาจย้�นคำาร้องทางไปรษณีย์หร้อส้�อ
(10) การร้องข่อไกลื่เกลืี�ยก่อนฟั้อง แลืะการดำาเนิน อิเลื็กทรอนิกส์อ้�นติามที�สำานักงานศาลืกำาหนดก็ได้
การไกลื่เกลืี�ยก่อนฟั้องติาม ป.วิ.แพู่ง มาติรา 20 ติรี ไม่ติ้อง (3.3) การสอบัถามความสมัครใจข่องคู่กรณี
เสียค่าข่่�นศาลื อีกฝ่ายในการเข่้าร่วมการไกลื่เกลืี�ยหร้อการติิดติ่อประสาน
(11) คำาสั�งข่องศาลืที�ออกติามเกี�ยวกับัการ งานระหว่างศาลืกับัคู่กรณีอาจดำาเนินการทางโทรศัพูท์
ไกลื่เกลืี�ยก่อนฟั้องติาม ป.วิ.แพู่ง มาติรา 20 ติรีให้เป็นที�สุด หร้อส้�ออิเลื็กทรอนิกส์อ้�นติามที�สำานักงานศาลืกำาหนดก็ได้

(๓) ข่้อกำาหนดข่องประธานศาลืฎีกาว่าด้วยการไกลื่เกลืี�ยก่อนฟั้อง พู.ศ. 2563 ข่้อ 5
(๔) ข่้อกำาหนดข่องประธานศาลืฎีกาว่าด้วยการไกลื่เกลืี�ยก่อนฟั้อง พู.ศ. 2563 ข่้อ 9

18 ข่่าวเนติิบััณฑิิติยสภา