Page 15 - อัยการนิเทศ (หนังสือราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด) เล่มที่ 86 พ.ศ. 2564
P. 15
เปิดบัญชีกระแสรายวันและสั่งจ่ายเช็คของกลางให้ตามความต้องการของเจ้าหนี้
ไม่มีเจตนาใช้เช็คดังกล่าวเพื่อชำระหนี้
คำชี้ขาดความเห็นแย้งที่ ๙๓๔/๒๕๖๒
พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๕๓๔ (มาตรา ๔)
ผู้ต้องหากู้ยืมเงินจากผู้กล่าวหาและผู้ต้องหาได้นำเช็คของกลางสั่งจ่ายเงินตามจำนวน
ที่กู้มอบให้ผู้กล่าวหาถือไว้ ผู้กล่าวหาขีดข้อความว่า “ประกัน” ในสัญญากู้ออกแล้วเขียน
ข้อความว่า “เพื่อเป็นการชำระหนี้” ลงไว้แทนไปฝ่ายเดียวโดยผู้ต้องหามิได้รู้เห็น ข้อความ
ที่แก้ไขและเพิ่มเติมดังกล่าวย่อมไม่ผูกพันผู้ต้องหา ประกอบกับผู้กล่าวหาเป็นผู้ชักชวนและมอบ
เงินจำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท ให้ผู้ต้องหาเปิดบัญชีกระแสรายวันและซื้อสมุดเช็คให้ผู้ต้องหา
เขียนเช็คของกลางหลังจากมีการเปิดบัญชีเพียงหนึ่งวัน มีการถอนเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ที่ใช้
ในการเปิดบัญชีออกจากบัญชีไปจนหมดแล้วไม่มีรายการเคลื่อนไหวทางบัญชีอีก ซึ่งเป็นเรื่อง
ผิดปกติวิสัยของผู้เปิดใช้บัญชีธนาคาร น่าเชื่อว่าผู้ต้องหาจำต้องยอมเปิดบัญชีกระแสรายวัน
และสั่งจ่ายเช็คฉบับของกลางส่งมอบให้ผู้กล่าวหาไปตามความต้องการของผู้กล่าวหา โดยมิได้
มีเจตนาใช้เช็คดังกล่าวเพื่อชำระหนี้ ผู้ต้องหาไม่มีความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้
มีการใช้เงินตามเช็ค ออกเช็คในขณะที่ออกเช็คนั้นไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้
และห้ามธนาคารมิให้ใช้เงินตามเช็คนั้นโดยเจตนาทุจริต
______________________________
ข้อเท็จจริงได้ความว่า ผู้ต้องหามีอาชีพขับรถแท็กซี่ ทำสัญญากู้เงินฉบับลงวันที่
๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ กู้เงิน จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท จากผู้กล่าวหา โดยสัญญาว่า จะชำระหนี้
ให้เสร็จสิ้นในวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ โดยขณะทำสัญญามิได้มอบหลักประกันไว้แต่อย่างใด
ต่อมาในวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๙ ผู้ต้องหาได้ไปขอเปิดบัญชีกระแสรายวันกับธนาคาร จำนวนเงิน
๑๐,๐๐๐ บาท และได้ออกเช็คสั่งจ่ายเงินจำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท มอบให้ผู้กล่าวหาในวันเดียวกัน
ผู้กล่าวหาได้นำเลขที่เช็คฉบับดังกล่าวไปกรอกลงในข้อ ๒ ของสัญญากู้เงิน และได้แก้ไขข้อความว่า
“ประกัน” เป็น “เพื่อเป็นการชำระหนี้” ต่อมาผู้ต้องหาได้ไปแจ้งธนาคารว่าเช็คฉบับดังกล่าว
สูญหาย และเป็นเช็คที่ยังไม่มีการใช้งาน ขอให้ธนาคารระงับการจ่ายเงินไว้ แต่ผู้กล่าวหาได้นำเช็ค
ฉบับดังกล่าวไปเรียกเก็บเงิน ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ผู้กล่าวหาจึงร้องทุกข์ดำเนินคดี
กับผู้ต้องหา ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธในสาระสำคัญว่าผู้ต้องหาเคยยืมเงินจากผู้กล่าวหา
หลายครั้ง เมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๙ ผู้กล่าวหาได้นำเงินจำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท มามอบให้กับ
ผู้ต้องหา และได้ร่วมเดินทางไปกับผู้ต้องหาเพื่อเปิดบัญชีธนาคารประเภทกระแสรายวัน เมื่อเปิด
บัญชีเสร็จ ผู้กล่าวหาให้ผู้ต้องหาเขียนเช็คของกลางสั่งจ่ายเงินจำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท ลงวันที่
๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ และเช็คอีก ๑ ฉบับซึ่งผู้ต้องหาจดจำเลขที่ไม่ได้ จำนวนเงินจำไม่ได้ และเช็ค
อีกฉบับเป็นเงินจำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท เพื่อคืนเงินที่ใช้เปิดบัญชีให้กับผู้กล่าวหา และผู้กล่าวหา
ได้นำเล่มเช็คพร้อมด้วยบัตรประชาชนไปเก็บไว้ที่ผู้กล่าวหา ผู้ต้องหามิได้ชำระหนี้เนื่องจากตกงาน
อัยการนิเทศ เล่มที่ ๘๖ พ.ศ. ๒๕๖๔