Page 20 - อัยการนิเทศ (หนังสือราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด) เล่มที่ 86 พ.ศ. 2564
P. 20
และบาร์ติดกับตัวเครื่องขนาดบาร์ยาว ๒๒ นิ้ว จำนวน ๑ เครื่อง สอบถามผู้ต้องหารับว่าไม่ได้
รับอนุญาตให้ตัดไม้และแปรรูปไม้ ต้องการนำไม้ไปต่อเติมซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ผู้กล่าวหากับพวก
จึงจับกุมตัวและยึดไม้ท่อน ไม้แปรรูป เลื่อยโซ่ยนต์เป็นของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
ฐานทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ทำการแปรรูปไม้โดยไม่ได้
รับอนุญาต มีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือ
รอยตรารัฐบาลขายโดยไม่ได้รับอนุญาต มีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
นายอำเภอหนองบัวระเหว หัวหน้าพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบมีความเห็นควรสั่งฟ้อง
ผู้ต้องหาตามข้อกล่าวหา พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาฐานทำไม้หวงห้ามฯ และมีไม้หวงห้าม
อันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองฯ และมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาฐานมีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครอง
โดยไม่ได้รับอนุญาต และเสนอสำนวนไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๓ รองผู้บัญชาการตำรวจ
ภูธรภาค ๓ มีความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้อง
อัยการสูงสุดพิจารณาแล้ว เห็นว่า การตรากฎกระทรวงกำหนดการสอบสวนความผิดอาญา
บางประเภทในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานครโดยพนักงานสอบสวนฝ่ายปกครอง
พ.ศ. ๒๕๕๔ มิได้มีผลลบล้างหรือจำกัดอำนาจของพนักงานสอบสวนฝ่ายปกครองซึ่งมีอยู่
ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๘ วรรคแรก ซึ่งกำหนด
อำนาจสอบสวนความผิดอาญาของพนักงานฝ่ายปกครองชั้นผู้ใหญ่ และปลัดอำเภอในจังหวัดอื่น
นอกจากกรุงเทพมหานครไว้แต่อย่างใด พนักงานสอบสวนฝ่ายปกครองตามความในประมวล
กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๘ วรรคแรก ยังคงมีอำนาจสอบสวนความผิดอาญา
ทุกประเภท ซึ่งรวมทั้งคดีความผิดเกี่ยวกับป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติในจังหวัดอื่นนอกจาก
กรุงเทพมหานครด้วย ทั้งนี้ ตามหนังสือสำนักงานอัยการสูงสุดที่ อส ๐๐๐๗(พก)/ว ๑๖๓
เรื่อง ปัญหาการปฏิบัติในชั้นสอบสวนที่เกี่ยวกับคดีป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ ลงวันที่
๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ดังนั้น พนักงานสอบสวนฝ่ายปกครองจึงมีอำนาจทำการสอบสวนคดีนี้ได้
และเมื่อคดีนี้นายอำเภอหนองบัวระเหวเป็นผู้ทำความเห็นในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ
การสอบสวนคดีนี้จึงอยู่ในความรับผิดชอบของพนักงานฝ่ายปกครอง มิใช่อยู่ในความรับผิดชอบ
ของเจ้าพนักงานตำรวจ อันจะต้องส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมคำสั่งไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธร
ภาค ๓ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๔๕/๑ หากแต่เป็นกรณีที่ต้องส่ง
สำนวนการสอบสวนพร้อมคำสั่งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา มาตรา ๑๔๕ เมื่อคดีนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิยังมิได้มีความเห็นแย้ง กรณีไม่มีเหตุให้
อัยการสูงสุดพิจารณาชี้ขาด จึงส่งสำนวนคดีอาญาคืนสำนักงานอัยการจังหวัดที่เกี่ยวข้องเพื่อ
ดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๔๕ ต่อไป
10 คำชี้ขาดความเห็นแย้ง