Page 22 - อัยการนิเทศ (หนังสือราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด) เล่มที่ 86 พ.ศ. 2564
P. 22
มีที่อยู่ในทะเบียนบ้านเลขที่ ๑๕๙/๙ ซอยลาดพร้าว ๑๙๗ (ดีสมโชค) แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ
กรุงเทพมหานคร ขอเปลี่ยนบัตรในกรณีเปลี่ยนที่อยู่ โดยมีนางสาว ส. ซึ่งเป็นเจ้าบ้าน
ในทะเบียนบ้านดังกล่าวให้การรับรองว่า ผู้ต้องหามีที่อยู่ตามทะเบียนบ้านจริง นาย ณ. จึงมีคำสั่ง
อนุญาตและออกบัตรประจำตัวประชาชนใบใหม่ให้ผู้ต้องหา ต่อมาเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๑
พันตำรวจตรี ว. ผู้กล่าวหากับพวก ได้รับแจ้งว่ามีคนต่างด้าวที่บริษัททัวร์ HIZO แขวงคลองจั่น
เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ถือบัตรประจำตัวประชาชนไทย จึงไปตรวจสอบพบผู้ต้องหาแจ้งว่า
ชื่อ นาย พ. พร้อมแสดงบัตรประจำตัวประชาชนให้ผู้กล่าวหาดู แต่ยอมรับว่าเป็นคนสัญชาติจีน
และบัตรประจำตัวประชาชนที่นำมาแสดงดังกล่าวได้มาจากการว่าจ้างนาย ก. ให้เป็นผู้พาผู้ต้องหา
ไปทำในราคา ๕๐๐,๐๐๐ บาท
คดีมีปัญหาให้อัยการสูงสุดชี้ขาดว่า การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐานแจ้งข้อความ
อันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจาก
การแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จ และใช้หรือแสดงบัตรอันเกิดจาก
การกระทำความผิดในการยื่นขอมีบัตรโดยมิได้มีสัญชาติไทยด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จหรือ
ปกปิดความจริงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือไม่
อัยการสูงสุดพิจาณาแล้ว เห็นว่า คดีมีนาย ป. ปลัดอำเภอ นาย ณ. พนักงานปกครอง
ชำนาญการและพันตำรวจตรี ว. ผู้กล่าวหา เป็นพยานยืนยันข้อเท็จจริงประกอบบัตรประจำตัว
ประชาชนของกลางและหลักฐานการขอออกบัตรประชาชนและการขอเปลี่ยนแปลงที่อยู่
ในบัตรประชาชนของผู้ต้องหา รับฟังได้ว่า ผู้ต้องหาเป็นบุคคลสัญชาติจีน อ้างตนเป็นคนไทย
และอ้างชื่อ ชื่อสกุล ภูมิลำเนา ตลอดจนข้อมูลประจำตัวประชาชนอันเป็นเท็จในการขอมี
บัตรประจำตัวประชาชน ณ ที่ว่าการอำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ แล้วอาศัยข้อมูลและ
บัตรประจำตัวประชาชนที่เจ้าพนักงานออกให้ดังกล่าวมายื่นขอเปลี่ยนแปลงภูมิลำเนา ที่สำนักงาน
เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร และใช้บัตรประจำตัวประชาชนที่สำนักงานเขตบางกะปิออกให้ดังกล่าว
อ้างแสดงต่อผู้กล่าวหา การที่ผู้ต้องหาจ่ายค่าตอบแทนจำนวนมากให้แก่ผู้ซึ่งไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ
ทั้งมิได้มีการให้เหตุผลเกี่ยวกับเงื่อนไขการได้มาซึ่งสัญชาติไทย ตลอดจนไม่มีการแสดงตนและ
เอกสารว่า ผู้ต้องหาเป็นบุคคลสัญชาติจีนและต้องการแปลงสัญชาติตามความจริง ประกอบกับ
บัตรประชาชนไทยยังออกในชื่อของบุคคลอื่นมิใช่ชื่อของผู้ต้องหา เป็นเพียงข้ออ้างที่เลื่อนลอย
และไม่สมเหตุผล พฤติการณ์ของผู้ต้องหาเป็นการยื่นคำขอมีบัตรโดยมิได้มีสัญชาติไทย ด้วยการ
แสดงหลักฐานอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริง และแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน
และแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ
ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น
หรือประชาชน อย่างไรก็ดีแม้ความผิดในฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงใน
เอกสารราชการดังกล่าว พนักงานอัยการจะได้มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องไปแล้วแต่บัตรประจำตัว
ประชาชนฉบับที่เจ้าพนักงานออกให้ผู้ต้องหา ณ ที่ว่าการอำเภอหนองบัวระเหว เป็นบัตรประชาชน
ที่ผู้ต้องหาได้มาจากการกระทำความผิด การที่ผู้ต้องหาใช้บัตรประชาชนดังกล่าวยื่นต่อนาย ณ.
เจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการออกบัตรประชาชน เพื่อขอเปลี่ยนบัตรประจำตัวประชาชน
ที่สำนักงานเขตบางกะปิ จนนาย ณ. เชื่อและมีคำสั่งอนุญาตและออกบัตรประจำตัวประชาชน
12 คำชี้ขาดความเห็นแย้ง