Page 27 - อัยการนิเทศ (หนังสือราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด) เล่มที่ 86 พ.ศ. 2564
P. 27

พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรยะหริ่ง  จังหวัดปัตตานี ดำเนินการ โดยเห็นว่าเป็นกรณี
                การกระทำความผิดไม่แน่ชัดว่าเกิดในท้องที่ใดในระหว่างหลายท้องที่  พนักงานสอบสวน
                สถานีตำรวจภูธรยะหริ่งได้ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลจังหวัดปัตตานี
                ออกหมายจับผู้ต้องหา สรุปสำนวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาฐานลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง

                และได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังอัยการจังหวัดปัตตานีเพื่อพิจารณา อัยการจังหวัดปัตตานี
                ส่งสำนวนการสอบสวนคดีนี้คืนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรยะหริ่ง เนื่องจากเห็นว่าเป็นกรณี
                ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา  มาตรา  ๒๑  วรรคสอง  กรณีไม่แน่ว่า
                พนักงานสอบสวนคนใดระหว่างหลายจังหวัดควรเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ เพื่อไม่ให้มี
                ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้อง จึงส่งสำนวนคืนเพื่อให้ดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
                ความอาญา มาตรา ๒๑ วรรคสอง
                     กรณีมีปัญหาให้อัยการสูงสุดชี้ขาดเขตอำนาจสอบสวนว่า พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธร
                ยะหริ่ง หรือพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอัมพวา มีอำนาจสอบสวนและเป็นพนักงาน
                สอบสวนผู้รับผิดชอบ

                     อัยการสูงสุดพิจารณาแล้ว เห็นว่า  คดีนี้ข้อเท็จจริงได้ความว่าผู้กล่าวหาได้ว่าจ้างให้
                ผู้ต้องหาขับรถยนต์บรรทุกหกล้อบรรทุกผลมะพร้าวของผู้กล่าวหาจากบ้านพักของผู้กล่าวหา
                ที่ตำบลตันหยงดาลอ  อำเภอยะหริ่ง  จังหวัดปัตตานี  เพื่อไปส่งให้ลูกค้าของผู้กล่าวหาที่
                จังหวัดราชบุรี แต่ผู้ต้องหากลับนำมะพร้าวไปขายให้กับนางสาว อ. ที่ตำบลวัดประดู่ อำเภออัมพวา
                จังหวัดสมุทรสงคราม ผู้กล่าวหาได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธร
                ยะหริ่ง ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ข้อเท็จจริงจึงไม่อาจทราบได้อย่างแน่นอนว่าผู้ต้องหามีเจตนา
                ลักทรัพย์เมื่อใดในระหว่างเวลาตั้งแต่ขับรถยนต์บรรทุกออกจากบ้านพักของผู้กล่าวหาที่จังหวัด

                ปัตตานีตลอดทางไปจนถึงจังหวัดสมุทรสงคราม จึงเป็นการไม่แน่ว่าการกระทำความผิดอาญาเกิด
                ในท้องที่ใดในระหว่างหลายท้องที่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙ (๑)
                พนักงานสอบสวนในท้องที่หนึ่งท้องที่ใดที่เกี่ยวข้องมีอำนาจสอบสวนได้ตามประมวลกฎหมาย
                วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง และในกรณีที่ยังจับผู้ต้องหาไม่ได้ พนักงานสอบสวน
                ในท้องที่ที่พบการกระทำผิดก่อนอยู่ในเขตอำนาจเป็นผู้รับผิดชอบในการสอบสวนตามประมวล
                กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙ วรรคท้าย (ข) เมื่อคดีนี้ผู้กล่าวหาได้ร้องทุกข์
                ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรยะหริ่งให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จึงถือว่าพนักงานสอบสวน
                สถานีตำรวจภูธรยะหริ่งพบการกระทำผิดก่อน  มีอำนาจสอบสวนและเป็นผู้รับผิดชอบในการ
                สอบสวนเรื่องนี้  ชี้ขาดให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรยะหริ่งมีอำนาจสอบสวนและ

                เป็นผู้รับผิดชอบในการสอบสวน













                                                             อัยการนิเทศ เล่มที่ ๘๖ พ.ศ. ๒๕๖๔  1
   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32