Page 21 - อัยการนิเทศ (หนังสือราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด) เล่มที่ 86 พ.ศ. 2564
P. 21
ใช้เอกสารที่เกิดจากการกระทำความผิดฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ
ที่พนักงานอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง ก็เป็นความผิดฐานใช้หรืออ้างเอกสาร
อันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ
คำชี้ขาดความเห็นแย้งที่ ๑๔๒๖/๒๕๖๒
ป.อ. แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน, แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ,
ใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ (มาตรา ๑๓๗,
๒๖๗, ๒๖๘)
พ.ร.บ. บัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๖
แม้พนักงานอัยการจะมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องในความผิดฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจด
ข้อความอันเป็นเท็จในการยื่นขอมีบัตรประจำตัวประชาชนโดยมิได้มีสัญชาติไทยด้วยการแสดง
หลักฐานอันเป็นเท็จ แต่เมื่อพยานหลักฐานฟังได้ว่า บัตรประชาชนที่ผู้ต้องหาใช้ยื่นต่อ
เจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการออกบัตรประชาชนเพื่อขอเปลี่ยนบัตรประจำตัวประชาชน
จนเจ้าพนักงานเชื่อและมีคำสั่งอนุญาตและออกบัตรประจำตัวประชาชนฉบับใหม่ให้นั้นได้มา
จากการกระทำความผิด การกระทำของผู้ต้องหาย่อมเป็นความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ
แก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้ง
ให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จและใช้หรือแสดงบัตรอันเกิดจาก
การกระทำความผิดในการยื่นขอมีบัตรโดยมิได้มีสัญชาติไทยด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ
หรือปกปิดความจริงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
______________________________
ข้อเท็จจริงได้ความว่าผู้ต้องหาซึ่งเป็นคนสัญชาติจีน ถือหนังสือเดินทางจีนได้ยื่นคำขอ
มีบัตรประจำตัวประชาชนและให้ปากคำต่อนาย ป. ปลัดอำเภอ ที่ว่าการอำเภอหนองบัวระเหว
จังหวัดชัยภูมิว่า ผู้ต้องหาเป็นผู้มีสัญชาติไทย มีชื่อว่า นาย พ. เกิดเมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๒๓
อยู่บ้านเลขที่ ๑๖๓ หมู่ที่ ๔ ตำบลหนองไม้แก่น อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา มีบิดามารดา
เป็นผู้มีสัญชาติไทย โดยบิดาชื่อนาย ป. มารดาชื่อนาง บ. และมี พันโท ม. เป็นพยานให้ถ้อยคำ
ยืนยันว่า ผู้ต้องหาคือนาย พ. บุคคลตามที่ยื่นคำขอมีบัตรจริง นาย ป. ได้สอบปากคำผู้ต้องหาและ
พันโท ม. แล้วจึงบันทึกข้อมูลทะเบียนราษฎร์ตามที่ผู้ต้องหาแจ้ง และได้ทำการเปรียบเทียบปรับ
ผู้ต้องหาด้วยเหตุเป็นบุคคลไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด จากนั้น
ได้ออกบัตรประจำตัวประชาชนระบุชื่อนาย พ. มอบให้แก่ผู้ต้องหาไป ทั้งที่ความจริงแล้วผู้ต้องหา
เป็นผู้มีสัญชาติจีน เกิดวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๒๘ ไม่มีบิดาชื่อนาย ป. มารดาชื่อนาง บ. แต่อย่างใด
จากนั้นในวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๖๑ ผู้ต้องหาได้ไปยื่นคำขอเปลี่ยนบัตรประจำตัวประชาชน
ที่สำนักงานเขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ต่อนาย ณ. พนักงานปกครองชำนาญการ ซึ่งมีอำนาจ
หน้าที่ในการออกบัตรประจำตัวประชาชน โดยอ้างว่าตนชื่อนาย พ. เกิดวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๒๓
อัยการนิเทศ เล่มที่ ๘๖ พ.ศ. ๒๕๖๔ 11
