Page 466 - คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป)
P. 466
- คำ�แปลอย่�งไม่เป็นท�งก�ร -
(ซี) เห็นว่า ไม่ได้มีการปฏิบัติตามหลักการที่ระบุไว้ในวรรค 6 ภาคีที่พิพาทใดอาจร้องขอให้มีการรวมตัวของคณะพิจารณาเพื่อพิจารณาวินิจฉัยเรื่อง
โดยวิธีการแจ้งให้ภาคีที่พิพาทอื่น ภาคีที่ร้องขอจะต้องส่งส าเนาการร้องขอให้ภาคีอื่น
5
ภาคีผู้ถูกฟ้องอาจร้องขอให้มีการรวมตัวของคณะพิจารณาเพื่อพิจารณาวินิจฉัยเรื่อง โดยพร้อมกัน
โดยวิธีการแจ้งไปยังภาคีผู้ฟ้อง ภายใน 30 วันนับจากวันที่ได้รับการแจ้งตามวรรค 3 ภาคีผู้ถูกฟ้อง
จะต้องส่งส าเนาการร้องขอให้ภาคีอื่นพร้อม ๆ กัน 14. เมื่อคณะพิจารณารวมตัวตามวรรค 13 ให้ใช้บังคับวรรค 3 ถึง 6 ของข้อ 19.16 (การ
ทบทวนการปฏิบัติตาม) โดยอนุโลม
9. เมื่อมีการร้องขอตามวรรค 8 คณะพิจารณาจะต้องรวมตัวภายใน 15 วันนับจากวันที่
มีการร้องขอ คณะพิจารณาที่รวมตัวจะต้องให้การตัดสินแก่กลุ่มภาคีที่พิพาทภายใน 45 วัน 15. หากคณะพิจารณาที่รวมตัวตามวรรค 13 ตัดสินว่าภาคีผู้ถูกฟ้องได้ปฏิบัติตามพันธกรณี
นับจากวันที่รวมตัว ภายใต้วรรค 1 ของข้อ 19.15 (การปฏิบัติตามรายงานฉบับสุดท้าย) ภาคีผู้ฟ้องจะต้อง
ยกเลิกการระงับสิทธิประโยชน์หรือพันธกรณีอื่นโดยพลัน
10. ในกรณีที่คณะพิจารณาที่รวมตัวตามวรรค 9 ตัดสินว่าระดับการระงับไม่เทียบเท่ากับระดับ
การท าให้เสียไปหรือการท าให้เสื่อมลงซึ่งผลประโยชน์ คณะพิจารณาจะต้องตัดสินระดับ ข้อ 19.18: การปฏิบัติพิเศษและแตกต่างที่เกี่ยวข้องกับภาคีประเทศพัฒนาน้อยที่สุด
การระงับที่เหมาะสมซึ่งเห็นว่าให้ผลเทียบเท่ากัน ในกรณีที่คณะพิจารณาตัดสินว่า ภาคีผู้ถูกฟ้อง
ได้ปฏิบัติตามข้อก าหนดและเงื่อนไขของข้อตกลงการชดเชยค่าเสียหายแล้ว ภาคีผู้ฟ้อง 1. ในทุกขั้นตอนของการพิจารณาตัดสินเหตุแห่งข้อพิพาทและของกระบวนการระงับข้อพิพาท
จะต้องไม่ระงับสิทธิประโยชน์หรือพันธกรณีอื่นที่อ้างถึงในวรรค 3 ในกรณีที่คณะพิจารณา ที่เกี่ยวข้องกับภาคีประเทศพัฒนาน้อยที่สุด จะต้องให้การพิจารณาเป็นการเฉพาะ
ตัดสินว่า ภาคีผู้ฟ้องไม่ได้ปฏิบัติตามหลักการที่ก าหนดไว้ในวรรค 6 ภาคีผู้ฟ้องจะต้องปฏิบัติ แก่สถานการณ์พิเศษของภาคีประเทศพัฒนาน้อยที่สุด ในการนี้ ภาคีจะต้องใช้การระงับ
ตามให้สอดคล้องกับวรรคดังกล่าว ยับยั้งอันควรในการยกเรื่องขึ้นภายใต้กระบวนการเหล่านี้ที่เกี่ยวข้องกับภาคีประเทศพัฒนา
น้อยที่สุด หากพบการท าให้เสียไปหรือการท าให้เสื่อมลงซึ่งผลประโยชน์เป็นผลจาก
11. ภาคีผู้ฟ้องอาจระงับสิทธิประโยชน์หรือพันธกรณีอื่นได้ในลักษณะที่สอดคล้องกับการตัดสิน การใช้มาตรการโดยภาคีที่เป็นประเทศพัฒนาน้อยที่สุด ภาคีผู้ฟ้องจะใช้การระงับยับยั้ง
ของคณะพิจารณาที่อ้างถึงในวรรค 10 เท่านั้น อันควรเกี่ยวกับเรื่องที่ครอบคลุมภายใต้ข้อ 19.17 (การชดเชยค่าเสียหายและการระงับสิทธิ
ประโยชน์หรือพันธกรณีอื่น) หรือพันธกรณีอื่นตามกระบวนการเหล่านี้
12. การระงับสิทธิประโยชน์หรือพันธกรณีอื่นจะต้องเป็นการชั่วคราว และจะต้องใช้บังคับ
จนกระทั่งมีการปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้วรรค 1 ของข้อ 19.15 (การปฏิบัติตามรายงาน 2. เมื่อภาคีที่พิพาทใดเป็นภาคีประเทศพัฒนาน้อยที่สุด รายงานของคณะพิจารณาจะต้องระบุ
ฉบับสุดท้าย) หรือได้มีการบรรลุข้อยุติข้อพิพาทที่ตกลงร่วมกันเท่านั้น อย่างชัดแจ้งถึงรูปแบบในการค านึงถึงบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องว่าด้วยการปฏิบัติพิเศษ
และแตกต่างส าหรับภาคีประเทศพัฒนาน้อยที่สุด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความตกลงฉบับนี้
13. เมื่อ และได้รับการหยิบยกโดยภาคีนั้นในช่วงระหว่างกระบวนการระงับข้อพิพาท
(เอ) มีการใช้สิทธิในการระงับสิทธิประโยชน์หรือพันธกรณีอื่นโดยภาคีผู้ฟ้องภายใต้ข้อนี้ ข้อ 19.19: ค่าใช้จ่าย
(บี) ภาคีผู้ถูกฟ้องได้แจ้งตามวรรค 7 ของข้อ 19.15 (การปฏิบัติตามรายงานฉบับ 1. ภาคีที่พิพาทแต่ละฝ่ายจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของผู้พิจารณาที่ตนแต่งตั้งและค่าใช้จ่าย
สุดท้าย) ว่าตนได้ปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้วรรค 1 ของข้อ 19.15 (การปฏิบัติ และค่าใช้จ่ายทางกฎหมายของตน เว้นแต่กลุ่มภาคีที่พิพาทจะตกลงกันเป็นอย่างอื่น
ตามรายงานฉบับสุดท้าย) และ
(ซี) กลุ่มภาคีที่พิพาทมีข้อพิพาทระหว่างกันเกี่ยวกับเรื่องความมีอยู่หรือความสอดคล้อง
กับความตกลงฉบับนี้ของมาตรการที่ใช้เพื่อปฏิบัติตามภายใต้วรรค 1 ของ 19.15
(การปฏิบัติตามรายงานฉบับสุดท้าย) 5 ในกรณีที่คณะพิจารณาที่รวมตัวตามวรรคนี้ เมื่อมีการร้องขอ คณะพิจารณาทบทวนการปฏิบัติตามอาจตัดสินว่า
ระดับการระงับสิทธิประโยชน์หรือพันธกรณีอื่นยังคงเหมาะสมตามผลการตัดสินเรื่องมาตรการของภาคีผู้ถูกฟ้อง
และหากไม่เหมาะสม อาจตัดสินระดับที่เหมาะสม
19-21 19-22