Page 170 - เอกสารคำสอนทวารวดี - ศรีวิชัย
P. 170
70 ศ.ดร.ผาสุข อินทราวุธ เสนอว่า การแสดงภาพลักษณะนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับคติของพุทธศาสนา
นิกายมหายานตันตระ ซึ่งเจริญรุ่งเรืองอยู่ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ภายใต้การอุปถัมภ์
ของราชวงศ์ปาละ ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 14-17 ดูใน ทวารวดี : การศึกษาเชิงวิเคราะห์จากหลักฐานทาง
โบราณคดี (กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์อักษรสมัย, 2542), 166. ดร.พิริยะ ไกรฤกษ์ เสนอว่า ภาพสลักที่ถ ้า
พระโพธิสัตว์แสดงให้เห็นถึงคุณลักษณะเหนือโลกของพระพุทธเจ้า (โลกุตระ) ที่สามารถแสดงธรรมสั่งสอน
เทพเจ้าของศาสนาพราหมณ์ได้ จึงอาจมีความเกี่ยวเนื่องกับพุทธศาสนานิกายมหาสังฆิกะ ซึ่งเป็นต้นเหตุแห่ง
พัฒนาการของพุทธศาสนามหายานในเวลาต่อมาก็เป็นได้ ดู อารยธรรมไทย พื้นฐานทางประวัติศาสตร์ศิลปะ
เล่ม 1 ศิลปะก่อนพุทธศตวรรษที่ 19 (กรุงเทพฯ: บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิซซิ่ง จ ากัด (มหาชน),
2544), 60.
71 ภาพสลักที่ถ ้าพระโพธิสัตว์นี้ยังมีปัญหาในการก าหนดอายุ ศาสตราจารย์ หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ
ดิศกุล ได้ทรงก าหนดไว้ในราวพุทธศตวรรษที่ 13-14 ดูใน ศิลปะในประเทศไทย, พิมพ์ครั้งที่ 11 (กรุงเทพฯ :
โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2539), 43. ดร.พิริยะ ไกรฤกษ์ ก าหนดให้อยู่ในช่วงครึ่งหลังของ
พุทธศตวรรษที่ 11 ดูใน อารยธรรมไทย พื้นฐานทางประวัติศาสตร์ศิลปะ เล่ม 1 ศิลปะก่อนพุทธศตวรรษที่
19, 59-60. ดร.ศักดิ์ชัย สายสิงห์ ก าหนดอายุให้อยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 12-13 ดูใน ศิลปะทวารวดี :
วัฒนธรรมพุทธศาสนายุคแรกเริ่มในดินแดนไทย (กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ, 2547), 215-217.
72 Dupont, L'archéologie mðne de Dvaravati, 266 ; พิริยะ ไกรฤกษ์, อารยธรรมไทย พื้นฐานทาง
ประวัติศาสตร์ศิลปะ เล่ม 1 ศิลปะก่อนพุทธศตวรรษที่ 19, 60.
73 Dupont, L'archéologie mðne de Dvaravati, 269 - 271 ; Jeannine Auboyer, Le trðne et son
symbolisme dans l’Inde ancienne (Paris: Universitaires de France, 1949), 117 - 125.
74 มีการส ารวจและขุดหลุมตรวจสอบ (Test Pit) ขนาด 50x50 เซนติเมตร บริเวณปากถ ้าพบว่า
พื้นดินมีความลึกราว 50 เซนติเมตร พบเศษภาชนะดินเผาทั้งภาชนะเนื้อดินธรรมดา (Earthenware)
และภาชนะเนื้อแกร่ง (Stoneware) ทางคณะขุดค้นสันนิษฐานว่าภาชนะเนื้อดินธรรมดานั้นเป็นภาชนะในสมัย
ทวารวดี ส่วนภาชนะเนื้อแกร่งซึ่งพบในปริมาณน้อยคงเป็นภาชนะสมัยลพบุรี ดังนั้นแหล่งโบราณคดีแห่งนี้คง
มีการเข้ามาใช้พื้นที่ในสมัยทวารวดี แล้วทิ้งร้างไปในช่วงหลังสมัยลพบุรี ดู อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ,
รายงานเบื้องต้นการส ารวจแหล่งโบราณคดี ถ ้าเขาถมอรัตน์ ต.โคกสะอาด อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ (กอง
โบราณคดี กรมศิลปากร, 2533), 2-3 และ 7.
75 Jean Boisselier, “Quelques Enseignements des Sculptures rupestres de la périod de
Dvaravati,“ in Récentes recherches en archéologie en thaïlande, deuxième symposium Franco-Thai
9-11 décembre 1991, Université Silpakorn (Bangkok: Amarin Printing group. Co., Ltd., 1993.), 15.
76 ดูใน ส านักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ, จากห้วงอวกาศสู่พื้นแผ่นดินไทย
พ.ศ. 2546 (กรุงเทพฯ : ส านักงานฯ, 2546), 509 - 510.
77 ดูรายละเอียดได้ใน อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ, น าชมอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ (บริษัท
อาทิตย์ โพรดักส์ กรุ๊ป จ ากัด, 2544).
78 ศรีศักร วัลลิโภดม, “จากถ ้าถมอรัตน์ถึงถ ้าโพธิสัตว์,” เมืองโบราณ 15,1 (มกราคม-มีนาคม 2532)
: 57 - 58.
79 ดร.พิริยะ ไกรฤกษ์ กล่าวว่า ถ ้าในเทือกเขางูเหล่านี้ น่าจะเป็นที่ซึ่งพระสงฆ์มาจ าพรรษาและหา
ความสงบวิเวก เพราะเป็นสถานที่ห่างไกลจากตัวเมือง โดยเฉพาะจากเมืองคูบัวอันเป็นเมืองโบราณส าคัญใน
164