Page 301 - เอกสารคำสอนทวารวดี - ศรีวิชัย
P. 301

ว่าพระภิกษุจีนชื่อ I-Huei ได้มรณภาพที่นั่น และยังเป็นจุดแวะพักของพระภิกษุ Tao-Lin ที่จะ
                       เดินทางไปยังอินเดียด้วย
                              พระภิกษุอี้จิงนั้นจาริกไปยังอินเดียตามเส้นทางสายแพรไหมทางทะเล ในช่วง พ.ศ.

                       1214–1238 โดยอาศัยเรือของพ่อค้าล่องผ่านมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แล้วแวะพักที่ศรีวิชัย

                       ก่อนเดินทางไปถึงยังแผ่นดินอินเดีย พระอี้จิงบันทึกไว้ว่า

                                     “ดินแดนทางตะวันออกของมหาวิทยาลัยนาลันทา (ใกล้เมืองราชคฤห์)

                                ไกลออกไป 500 โยชน์ เรียกว่า ปัจจันตประเทศฝ่ายตะวันออก ณ ที่สุด (เขตแดน)
                                ถึงเทือกภูเขาด าใหญ่ ซึ่งอาจเป็นพรมแดนฝ่ายใต้ของตรุฟัน (ทิเบต) กล่าวกันว่า
                                (เทือกเขานี้) อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของมณฑลจก (เสฉวน) อาจเดินไปถึง

                                ภูเขานี้ได้ในเวลาเดือนกว่า ทางใต้จากนี้ไปมีบ้านเมืองจดทะเล เรียกว่า แคว้น
                                ชิดหลีต๋าล้อ (ศรีเกษตร) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของแคว้นนี้เป็นแคว้นลั่งเกียฉู่
                                ต่อมาทางตะวันออกคือ แคว้นตุยโหโปตี้ (ทวารวดี) ต่อไปทางตะวันออกในที่สุดจะ

                                ถึงแคว้นหลินยี่ (จามปา) พลเมืองของแว่นแคว้นเหล่านี้ทั้งหมดนับถือพระรัตนตรัย
                                เป็นอย่างดี”
                                         33
                              ประเด็นส าคัญที่ได้จากเอกสารจีนข้างต้นประกอบด้วย

                              1)  รัฐหลั่งยะสิวตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างประเทศจีนและอินเดีย เป็นจุดแวะพักในการ

                                 เดินทางจาริกของพระภิกษุอินเดียและจีน
                              2)  รัฐหลั่งยะสิวมีการติดต่อกับอินเดียอย่างใกล้ชิด และก็มีการเจริญสัมพันธไมตรีกับ
                                 ราชส านักจีน โดยส่งบรรณาการไปหลายครั้ง

                              3)  สินค้า (พื้นเมือง ?) ของหลั่งยะสิวคือ ไม้กฤษณา และการบูร

                              4)  รัฐหลั่งยะสิวเจริญขึ้นร่วมสมัยกับอาณาจักรฟูนันและรัฐพันพัน อย่างน้อยก็ตั้งแต่
                                 ราวพุทธศตวรรษที่ 11 และเจริญควบคู่ไปกับรัฐพันพัน, รัฐทวารวดี, รัฐศรีเกษตร
                                 และรัฐจามปา ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 12

                              นักวิชาการส่วนใหญ่ลงความเห็นว่ารัฐหลั่งยะสิวหรือลังกาสุกะคงตั้งอยู่แถบเมืองยะรัง

                       อ าเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี (ดูในบทที่ 2) ปัจจุบันเมืองโบราณยะรังตั้งอยู่ตอนในแผ่นดิน
                       ห่างจากชายฝั่งทะเลทางทิศเหนือตรงอ่าวปัตตานี (ตัวเมืองปัตตานีปัจจุบัน) ราว 20 กิโลเมตร
                       ตัวเมืองโบราณตั้งอยู่ในที่ราบลุ่มแม่น ้าปัตตานีเดิม โดยมีทางน ้าซึ่งเป็นล าน ้าสาขาของแม่น ้า

                       ปัตตานีไหลผ่านทางทิศตะวันตก ส่วนทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้นั้นเป็นเขตเทือกเขาตอนใน

                       อยู่ในเขตจังหวัดยะลาซึ่งเป็นเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อไปยังชุมชนโบราณเขตบูจัง วัลเลย์
                       (Bujang Valley) ในรัฐเกดะห์ของประเทศมาเลเซียได้ (ภาพที่ 266)








                                                               295
   296   297   298   299   300   301   302   303   304   305   306