Page 291 - ทวารวดี ประตูสู่การค้าบนเส้นทางสายไหมทางทะเล
P. 291
เมื่อรัฐหรืออาณาจักรฟูนันล่มสลายลงไปราว พ.ศ. 1100
(พุทธศตวรรษที่ 12) รัฐน้อยใหญ่ข้างต้นจึงมีบทบาทมากขึ้นในการค้าขาย
แลกเปลี่ยนตามเส้นทางสายไหมทางทะเล รัฐทวารวดีในภาคกลางของ
ประเทศไทยก็คงถือก าเนิดขึ้นในช่วงเวลานี้และเริ่มมีความส าคัญอยู่ในหน้า
ประวัติศาสตร์ (โดยเฉพาะในเอกสารของจีนสมัยราชวงศ์ถัง) และวัฒนธรรม
ทางศาสนาแบบทวารวดีก็ได้แพร่หลายไปยังภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศไทย
ด้วย
ขณะที่ทางคาบสมุทรภาคใต้หรือแหลมมลายูและเกาะสุมาตราใน
ประเทศอินโดนีเซียก็มีรัฐหรืออาณาจักรศรีวิชัยซึ่งท าหน้าที่เป็นพ่อค้า
คนกลางหรือมหาอ านาจการค้าทางทะเลก าเนิดขึ้นในราว พ.ศ. 1200
(พุทธศตวรรษที่ 13) โดยศรีวิชัยนี้มีความสัมพันธ์ทางการค้าและศาสนา
(พุทธศาสนามหายาน) กับรัฐทวารวดีอย่างใกล้ชิด
ศรีวิชัยนั้นมีบทบาทอย่างมากในการติดต่อค้าขายกับราชวงศ์ถัง
ของจีนและจักรวรรดิอิสลามสมัยราชวงศ์อับบาสิยะฮ์ พ่อค้าและนักเดินเรือ
โดยเฉพาะจากตะวันออกกลาง (หรืออาหรับ) ต่างเข้ามาแสวงหา
ผลประโยชน์ทางการค้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งในพื้นที่
ภาคกลางของประเทศไทย สินค้าส าคัญจากจีนและตะวันออกกลางคือ
เครื่องถ้วย และลูกปัดแก้ว ตลอดจนหลักฐานทางโบราณคดีประเภทอื่นๆ
อาทิเช่น ประติมากรรมรูปชาวต่างชาติ เหรียญกษาปณ์ และเรือจม
(ที่จังหวัดสมุทรสาคร) คือประจักษ์พยานที่ชัดเจนของการค้าขายแลกเปลี่ยน
ระหว่างประเทศในสมัยทวารวดี
อย่างไรก็ตาม การค้าขายแลกเปลี่ยนที่เฟื่องฟูอย่างมากในช่วง
ราว พ.ศ. 1300–1500 (พุทธศตวรรษที่ 14-15) กลับต้องประสบปัญหาบาง
ประการในช่วงประมาณ พ.ศ. 1550–1600 (พุทธศตวรรษที่ 16) จากการ
เรืองอ านาจของราชวงศ์โจฬะในประเทศอินเดียภาคใต้และอาณาจักรกัมพูชา
โบราณ ซึ่งต่างพยายามก้าวเข้ามามีบทบาทในการควบคุมเส้นทางการค้า
280