Page 292 - ทวารวดี ประตูสู่การค้าบนเส้นทางสายไหมทางทะเล
P. 292
และการเดินเรือในน่านน ้าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การแข่งขันกันนี้อาจน า
มาสู่การพยายามขยายอ านาจเข้าครอบครองดินแดนลุ่มแม่น ้าเจ้าพระยาของ
อาณาจักรกัมพูชาโบราณ (ตั้งแต่รัชกาลพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 จนถึงสมัย
พระเจ้าชัยวรมันที่ 7) เพื่อหวังผลประโยชน์ส่วนหนึ่งในเชิงเศรษฐกิจการค้า
โดยเฉพาะการควบคุมที่ราบลุ่มแม่น ้าส าหรับเพาะปลูกและแหล่งทรัพยากร
แร่ธาตุ อีกทั้งยังสามารถจัดตั้งเมืองท่าค้าขายในเขตภาคกลางและภาค
ตะวันตกของประเทศไทย (โดยเฉพาะลุ่มแม่น ้าแม่กลอง) ซึ่งพื้นที่แถบนี้
ก็เคยเจริญมาก่อนหน้าแล้วในช่วงสมัยทวารวดี
ถึงแม้ว่ารัฐหรือวัฒนธรรมสมัยทวารวดีอาจล่มสลายลงในช่วง
ประมาณ พ.ศ. 1600–1750 (พุทธศตวรรษที่ 17 – กลางพุทธศตวรรษที่ 18)
(ซึ่งอันที่จริงแล้วยังคงเป็นประเด็นส าคัญที่เปิดโอกาสให้ค้นคว้ากันต่อไป)
แต่นโยบายด้านการค้าระหว่างประเทศที่ทวารวดีเคยใช้ก็ได้สืบทอดต่อมาใน
สมัยที่กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ไม่เพียงแต่ชื่อของทวารวดีที่ปรากฏอยู่ใน
สร้อยพระนามของกรุงศรีอยุธยาเท่านั้น แต่อยุธยายังเป็นเมืองท่าค้าขาย
ส าคัญที่ติดต่อกับนานาอารยะประเทศ ทั้งจีน ญี่ปุ่น อินเดีย (และศรีลังกา)
ตะวันออกกลาง (เปอร์เซีย) และชาติตะวันตก โดยสินค้าส่งออกส าคัญของ
อยุธยาก็คือของป่านานาชนิด เนื่องจากอยุธยาตั้งอยู่ในพื้นที่ของรัฐทวารวดี
มาแต่เดิมนั่นเอง
ด้วยเหตุนี้บทบาทของ “ทวารวดี” ในฐานะประตูการค้าที่
เป ิ ดกว้างเข้าสู่แผ่นดินตอนในของประเทศไทยอันอุดมไปด้วยของป่า
และทรัพยากรธรรมชาติ จึงยังคงมีความส าคัญสืบเนื่องมาในสมัย
อยุธยา และไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า การค้าระหว่างประเทศตาม
เส้นทางสายไหมทางทะเลเฉกเช่นในอดีตก็ยังคงด าเนินอยู่ในปัจจุบัน
(และในอนาคต) ด้วย
281