Page 42 - ผู้หญิงก้าวเดิน : มูลนิธิรักษ์ไทย
P. 42
03 ท�ำไมต้องช่วย
แรงงำนข้ำมชำติ
คำาถามหนึ่งซึ่งฝ่ายบริหารของมูลนิธิรักษ์ไทยมักถูกตั้งข้อสงสัยอยู่เสมอก็คือ
“จะต้องไปท�างานช่วยแรงงานพม่าท�าไม เขาเคยปล้นทองเราสมัยอยุธยานะ”
มันเป็นคำาถามที่แสดงให้เห็นถึงมายาคติของคนทั่วไปที่มีต่อคนจากประเทศ
เพื่อนบ้าน มายาคติที่ถูกสร้างผ่านเรื่องเล่าประวัติศาสตร์ชาติไทยเพื่อคำ้ายันอุดมการณ์
ชาตินิยม จนต้องหาศัตรูร่วมของ “ชาติ” ขึ้นมาเพื่อความสมัครสมานกลมเกลียว
ของคนไทย โดยละเลยต่อมุมมองด้านมนุษยธรรมของผู้ที่ประสบภาวะยากลำาบาก
ตรงหน้า
พร้อมบุญ พานิชภักดิ์ เลขาธิการมูลนิธิรักษ์ไทย กล่าวว่า “ในฐานะที่เป็นองค์กร
พัฒนามืออาชีพ มีความจ�าเป็นที่เราจะต้องท�างานอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้าง
ความเปลี่ยนแปลง และในส่วนงานหลักขององค์กรที่ท�าหลายด้านหลายมิติ จึงมี
ความจ�าเป็นที่จะต้องช่วยคนที่เขาช่วยตัวเองไม่ได้ และแรงงานข้ามชาติก็เป็น
คนกลุ่มนั้น กลุ่มคนที่องค์กรอื่นไม่ท�างานด้วย เราจึงต้องกล้าท�าในสิ่งที่เป็นพื้นฐาน
ส่วนนี้ นั่นคือเรื่องสุขภาพของแรงงานข้ามชาติ ดังที่ด�าเนินงานมากว่า 20 ปี”
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือโครงการฟ้ามิตร ซึ่งมีชื่อเต็มว่า “โครงการส่งเสริมการป้องกัน
เอดส์ในแรงงานข้ามชาติในประเทศไทย” ดำาเนินการระหว่างปี พ.ศ. 2547-2557
ภายใต้การสนับสนุนจากกองทุนโลกด้านเอดส์ วัณโรค และมาลาเรีย ที่มูลนิธิรักษ์ไทย
เป็นผู้รับทุนหลัก ในการทำางานร่วมกับองค์กรพัฒนาเอกชนอีก 8 องค์กร
แบ่งความรับผิดชอบกันไปตามพื้นที่ ซึ่งมีกลไกประเมินผลและการติดตามการทำางาน
จากสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ผลงานหลายอย่าง
ยังคงส่งผลจนถึงทุกวันนี้
40 ผู้หญิงก้าวเดิน