Page 21 - วารสารการเกษตรราชภัฏ ปีที่ 22 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2566
P. 21
16
17
16 17
2000 กิโลกรัมต่อไร่) กลุ่มทดลองที่ 5 ปุ๋ยหมักเศษใบไม้ 3.3. น าหนักแห้งต้นรวมราก (กรัมต่อต้น) โดย ที่กลุ่มทดลองที่ 7 ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 (อัตรา 25 กิโลกรัม ค่อนข้างมาก คือ 6.10 เซนติเมตร ส่วนกลุ่มทดลองที่ 7
และมูลค้างคาว (อัตรา 2000 กิโลกรัมต่อไร่) กลุ่มทดลอง น าส่วนของต้นรวมรากมาอบในตู้อบลมร้อนที่อุณหภูมิ 60 ต่อไร่) ร่วมกับปุ๋ยหมักหอยเชอรี่และน ามะพร้าว (อัตรา ปุ๋ยเคมี สูตร 46-0-0 (อัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่) ร่วมกับปุ๋ย
ที่ 6 ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 (อัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่) องศาเซลเซียล เป็นเวลา 72 ชั่วโมง 1,000 กิโลกรัมต่อไร่) มีความกว้างทรงพุ่มเฉลี่ยค่อนข้าง หมักหอยเชอรี่และน ามะพร้าว (อัตรา 1,000 กิโลกรัมต่อ
ร่วมกับปุ๋ยหมักมูลสุกรและเศษพืช (อัตรา 1000 กิโลกรัม น้อย คือ 11.53 เซนติเมตร และมีความแตกต่างกันทาง ไร่) มีความกว้างใบเฉลี่ยค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับกลุ่ม
ต่อไร่) กลุ่มทดลองที่ 7 ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 (อัตรา 25 4. การวิเคราะห์ข้อมูล สถิติอย่างมีนัยส าคัญยิ่ง (p≤0.01) (ตารางที่ 1 และภาพที่ ทดลองอื่น ๆ คือ 4.57 เซนติเมตร และมีค่าแตกต่างกัน
กิโลกรัมต่อไร่) ร่วมกับปุ๋ยหมักหอยเชอรี่และน ามะพร้าว น าข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์หาค่าความแปรปรวน 2) สาเหตุที่ท าให้กลุ่มทดลองที่ 6 ปุ๋ยเคมี สูตร 46-0-0 ทางสถิติอย่างมีนัยส าคัญ (p≤0.05) (ตารางที่ 1) สาเหตุที่
(อัตรา 1000 กิโลกรัมต่อไร่) กลุ่มทดลองที่ 8 ปุ๋ยเคมีสูตร ทางสถิติ (ANOVA) และเปรียบเทียบความแตกต่างของ (อัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่) ร่วมกับปุ๋ยหมักมูลสุกรและเศษ ท าให้กลุ่มทดลองที่ 6 ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 (อัตรา 25
46-0-0 (อัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่) ร่วมกับปุ๋ยหมัก ค่าเฉลี่ย โดยวิธี Least Significant Difference (lsd) ที่ พืช (อัตรา 1,000 กิโลกรัมต่อไร่) มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด กิโลกรัมต่อไร่) ร่วมกับปุ๋ยหมักมูลสุกรและเศษพืช (อัตรา
จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง (อัตรา 1000 กิโลกรัมต่อไร่) และ ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 เนื่องจากในมูลสุกรมีปริมาณธาตุอาหารอย่าง ฟอสฟอรัส 1,000 กิโลกรัมต่อไร่) มีแนวโน้มให้ความกว้างใบเฉลี่ยมาก
กลุ่มทดลองที่ 9 ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 (อัตรา 25 กิโลกรัม มากกว่ากลุ่มทดลองที่เป็นปุ๋ยหมักชนิดอื่น ซึ่งฟอสฟอรัส ที่สุด เนื่องจากมีธาตุอาหารหลักอย่างไนโตรเจนที่มีส่วน
ต่อไร่) ร่วมกับปุ๋ยหมักเศษใบไม้และมูลค้างคาว (อัตรา ช่วยในการสร้างระบบรากให้แข็งแรง ช่วยในการแตกกอ ช่วยในเรื่องของการเจริญเติบโตที่ได้จากปุ๋ยเคมี มูลสุกร
1000 กิโลกรัมต่อไร่) ผลการวิจัยและวิจารณ์ และช่วยให้ล าต้นแข็งแรงไม่ล้มง่าย ช่วยให้พืชดูดใช้ธาตุ และเศษพืช นอกจากนี ในมูลสุกรที่น ามาท าปุ๋ยหมักเมื่อ
ไนโตรเจนได้ดีขึ น (วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี, 2562) และ ย่อยสลายนอกจากจะปลดปล่อยธาตุไนโตรเจนแล้ว ยัง
2. วิธีการทดลอง 1. ความสูงเฉลี่ยของผักสลัดคอส ยังมีส่วนประกอบที่เป็นแกลบอีกด้วย ซึ่งแกลบนั นมีธาตุ ปลดปล่อยมีธาตุฟอสฟอรัสและโพแทสเซียม ซึ่ง
2.1 การเพาะเมล็ดผักสลัดคอสลงในถาดเพาะ วัดความสูงผักสลัดคอสเมื่อผักสลัดคอสมีอายุ ไนโตรเจน 0.35 เปอร์เซ็นต์ (ส านักวิจัยพัฒนาปัจจัยการ ฟอสฟอรัสเป็นส่วนส าคัญในระบบพลังงานของพืช เป็น
โดยใส่ดินผสมแกลบด าอัตราส่วน 1:1 ให้เต็มถาดเพาะ 36 วัน หลังย้ายปลูก พบว่า กลุ่มทดลองที่ 3 ปุ๋ยหมักหอย ผลิตทางการเกษตร, 2548) จึงท าให้การเจริญเติบโตนั นมี ส่วนประกอบที่ส าคัญของ ATP (วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี,
เกลี่ยดินให้เรียบ พรมน าพอประมาณ เอาเมล็ดสลัดหยอด เชอรี่และน ามะพร้าว (อัตรา 2,000 กิโลกรัมต่อไร่) มี ค่าเฉลี่ยดีมาก และจะเห็นได้ว่าเมื่อพืชอายุ 36 วันหลัง 2563) ธาตุโพแทสเซียมช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของ
ลงไปในหลุม 1-2 เมล็ดต่อหลุม แล้วรดน าให้ชุ่มอีกครั ง ความสูงเฉลี่ยค่อนข้างมากกว่ากลุ่มทดลองอื่นๆ มีค่า ย้ายปลูก กลุ่มทดลองที่ 3 ปุ๋ยหมักหอยเชอรี่และน า ราก เป็นหนึ่งตัวช่วยที่ต้องท างานร่วมกับธาตุฟอสฟอรัส
2.2 การเตรียมดิน โดยขุดดินมากองและโรยปูน เท่ากับ 21.03 เซนติเมตร ในขณะที่กลุ่มทดลองที่ 7 มะพร้าว (อัตรา 2,000 กิโลกรัมต่อไร่) มีค่าเฉลี่ยโดดเด่น และยังลดทอนผลกระทบที่เกิดจากการดูดซับธาตุ
ขาว เกลี่ยตากดินทิ งไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ ให้วัชพืชแห้ง ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 (อัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่) ร่วมกับปุ๋ย ขึ นมา เนื่องจากในส่วนประกอบของวัสดุท าปุ๋ยหมัก มี ไนโตรเจน และฟอสฟอรัสที่มากเกินไปของพืช (Smart-
ตาย จึงน าดินมาใส่ถุงปลูก ขนาดถุง 5x10 นิ ว (น าหนัก หมักหอยเชอรี่และน ามะพร้าว (อัตรา 1,000 กิโลกรัมต่อ สวนผสมของมูลสัตว์ 0.5 กิโลกรัม และเป็นมูลสุกร green, 2562)
ดิน 2 กิโลกรัมต่อถุง) ไร่) พบว่าท าให้ผักสลัดคอสมีความสูงเฉลี่ยของต้นน้อย นอกจากนี ยังมีธาตุอาหารในส่วนของน ามะพร้าวที่อุดมไป
2.3 หลังจากต้นอ่อนผักสลัดคอสงอกในถาด ที่สุด คือ 11.73 เซนติเมตร และมีความแตกต่างกันทาง ด้วยแร่ธาตุหลายชนิดและน ามะพร้าวสามารถกระตุ้น 4. ความยาวใบเฉลี่ยของผักสลักคอส (เซนติเมตร)
เพาะแล้วประมาณ 20 วัน ลักษณะต้นกล้าจะมีใบจริง 2-3 สถิติอย่างมีนัยส าคัญยิ่ง (p≤0.01) (ตารางที่ 1 และภาพที่ เซลล์ให้เซลล์เกิดการเจริญเติบโตและแบ่งเซลล์อย่าง วัดความยาวใบเมื่อผักสลัดคอสมีอายุ 36 วัน
ใบ และรากเริ่มยาวให้ย้ายกล้ามาลงปลูกในถุงปลูก 1 ต้น 1) สาเหตุที่กลุ่มทดลองที่ 3 ปุ๋ยหมักหอยเชอรี่และน า รวดเร็ว (อภิญญ์, 2544) แต่ในกลุ่มทดลองที่ 7 ใช้ปุ๋ยเคมี หลังย้ายปลูก พบว่า มีความแตกต่างกันทางสถิติ
ต่อ 1 ถุง มะพร้าว (อัตรา 2,000 กิโลกรัมต่อไร่) มีค่าเฉลี่ยความสูง สูตร 46-0-0 (อัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่) ร่วมกับปุ๋ยหมัก (p≤0.01) โดยกลุ่มทดลองที่ใช้ปุ๋ยเคมี หรือ ปุ๋ยหมักเพียง
2.4 การรดน า ควรให้น าอย่างสม่ าเสมอทุกวัน ของผักสลัดคอส มากที่สุด เนื่องจากในหอยเชอรี่มีโปรตีน หอยเชอรี่และน ามะพร้าว (อัตรา 1,000 กิโลกรัมต่อไร่) อย่างเดียว หรือปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยหมัก ยกเว้น กลุ่ม
(เช้า-เย็น) สูงถึง 34-53 เปอร์เซ็นต์ มีหน้าที่ช่วยเสริมสร้างเซลล์และ ถึงจะมีธาตุอาหารครบ แต่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทดลองที่ 7 ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 (อัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่)
2.5 ใส่ปุ๋ยตามอัตราที่แผนการทดลองก าหนด การแบ่งเซลล์ของพืช ซึ่งพืชต้องการอย่างต่อเนื่อง (วราง ของพืช เนื่องจากธาตุไนโตรเจนในอินทรียวัตถุจะถูก ร่วมกับปุ๋ยหมักหอยเชอรี่และน ามะพร้าว (อัตรา 1,000
เมื่อผักสลัดคอส มีอายุ 15 วัน หลังย้ายปลูก ท าการ รัตน์, 2562) และในน ามะพร้าวมีฮอร์โมนในกลุ่มไซโตไค ปลดปล่อยออกมาประมาณ 2-5 เปอร์เซ็นต์ หรือเฉลี่ย 4 กิโลกรัมต่อไร่) มีความยาวใบเฉลี่ยไม่แตกต่างกันทางสถิติ
ทดลองที่แปลงปลูกพืชทดลอง คณะเกษตรศาสตร์ นินที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตทางล าต้นและใบ เปอร์เซ็นต์ต่อฤดูกาลเพาะปลูก ดังนั น เมื่อลดความเข้มข้น มีค่าอยู่ระหว่าง 13.57 – 17.90 เซนติเมตร ในขณะที่กลุ่ม
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เดือน ตุลาคม พ.ศ. ผลผลิตและองค์ประกอบโดยรวมของผลผลิต (อภิญญ์ ของปุ๋ยหมักหอยเชอรี่และน ามะพร้าว ลงครึ่งหนึ่ง เหลือ ทดลองที่ 7 มีความยาวใบเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ 10.13
2561 ถึงเดือนมกราคม พ.ศ. 2562 รวมระยะเวลาทดลอง และธวัชชัย, 2555) 1,000 กิโลกรัมต่อไร่ จะมีธาตุไนโตรเจนถูกปลดปล่อย เซนติเมตร (ตารางที่ 1) สาเหตุที่การใช้ปุ๋ยหมักหอยเชอรี่
ทั งหมด 4 เดือน ออกมาเพียง 4 เปอร์เซ็นต์ หรือ 40 กิโลกรัมไนโตรเจน ซึ่ง และน ามะพร้าว (อัตรา 1,000 กิโลกรัมต่อไร่) มีความยาว
2. ความกว้างทรงพุ่มเฉลี่ยของผักสลัดคอส(เซนติเมตร) ไม่เพียงพอแก่การเจริญเติบโตของพืช (ส านัก ใบเฉลี่ยน้อยที่สุด เนื่องจากวัตถุดิบหอยเชอรี่ที่น ามาหมัก
3. การบันทึกข้อมูล วัดความกว้างทรงพุ่มเมื่อผักสลัดคอสมีอายุ 36 เทคโนโลยีชีวภาพทางดิน, 2551) ส่งผลให้มีแนวโน้มความ เมื่อศึกษาปริมาณธาตุอาหารหลักพบว่ามีปริมาณ
3.1 ความสูงของต้น ความกว้างทรงพุ่ม ความ วันหลังย้ายปลูก พบว่า กลุ่มทดลองที่ 3 ปุ๋ยหมักหอยเชอรี่ กว้างทรงพุ่มเฉลี่ยน้อยที่สุด ไนโตรเจน (0.24-1.48%) ฟอสฟอรัส (0.02-0.93%) และ
กว้าง และความยาวของใบที่กางเต็มที่จ านวน 3 ใบต่อต้น และน ามะพร้าว (อัตรา 2,000 กิโลกรัมต่อไร่) กลุ่มทดลอง โพแทสเซียม (0.42-1.47%) น้อยกว่ามูลสุกร มูลค้างคาว
(เซนติเมตร) เมื่อผักสลัดคอส อายุ 36 วัน หลังย้ายปลูก ที่ 6 ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 (อัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่) 3. ความกว้างเฉลี่ยของใบของผักสลัดคอส (ส านักวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร, 2548)
3.2 จ านวนใบ (ใบต่อต้น) เส้นผ่าศูนย์กลางล า ร่วมกับปุ๋ยหมักมูลสุกรและเศษพืช (อัตรา 1,000 กิโลกรัม วัดความกว้างใบเมื่อผักสลัดคอส อายุ 36 วัน และจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง (วิณากร และคณะ, 2563) ที่
ต้น (มิลลิเมตร) โดยวัดสูงจากพื นดินขึ นมา 5 เซนติเมตร ต่อไร่) และกลุ่มทดลองที่ 2 ปุ๋ยหมักมูลสุกรและเศษพืช หลังย้ายปลูก พบว่า กลุ่มทดลองที่ 6 ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 น ามาเป็นวัตถุดิบในการหมักเช่นเดียวกัน ส่งผลให้ปริมาณ
น าหนักสดต้นรวมราก (กรัมต่อต้น) เมื่อผักสลัดคอส อายุ (อัตรา 2,000 กิโลกรัมต่อไร่) มีความกว้างทรงพุ่มเฉลี่ยไม่ (อัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่) ร่วมกับปุ๋ยหมักมูลสุกรและเศษ ธาตุอาหารที่ได้รับอาจไม่เพียงพอจึงท าให้มีความยาวใบ
36 วันหลังย้ายลงปลูก แตกต่างกันทางสถิติ และมีค่าเฉลี่ยค่อนข้างมาก คือ พืช (อัตรา 1,000 กิโลกรัมต่อไร่) มีความกว้างใบ เฉลี่ยน้อยที่สุด
20.23 19.97 และ 19.03 เซนติเมตร ตามล าดับ ในขณะ
วารสารการเกษตรราชภัฏ ปีที่ 22 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2566
วารสารการเกษตรราชภัฏ ปีที่ 22 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2566 วารสารการเกษตรราชภัฏ ปีที่ 22 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2566
วารสารการเกษตรราชภัฏ ปีที่ 22 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2566