Page 450 - คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป)
P. 450
- คำ�แปลอย่�งไม่เป็นท�งก�ร -
2. หากกลุ่มภาคีที่พิพาทตกลงกระบวนการที่อ้างถึงในวรรค 1 อาจด าเนินต่อไป ในขณะที่เรื่องดังกล่าว 4. ภาคีผู้ถูกฟ้องจะต้องยืนยันการได้รับการร้องขอให้จัดตั้งคณะพิจารณาที่ด าเนินการตามวรรค
ก าลังถูกพิจารณาวินิจฉัยโดยคณะพิจารณาภายใต้บทนี้ 1 โดยทันที โดยการแจ้งไปยังภาคีผู้ฟ้อง โดยระบุวันที่ได้รับค าร้อง มิฉะนั้น ให้ถือว่าวันที่
ที่ส่งการร้องขอเป็นวันที่ที่ภาคีผู้ถูกฟ้องได้รับการร้องขอภาคีผู้ถูกฟ้องจะต้องส่งส าเนา
3. กระบวนพิจารณาที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่อ้างถึงในวรรค 1 และท่าทีของภาคีที่พิพาท การแจ้งดังกล่าวให้แก่ภาคีอื่นพร้อม ๆ กัน
ระหว่างกระบวนพิจารณาเหล่านี้ จะต้องเป็นความลับและไม่เป็นการกระทบต่อสิทธิ
ของภาคีที่พิพาทใดในกระบวนพิจารณาต่อไปหรือกระบวนพิจารณาอื่น ๆ 5. เมื่อมีการร้องขอให้จัดตั้งคณะพิจารณาตามวรรค 1 ให้จัดตั้งคณะพิจารณา
โดยเป็นไปตามข้อ 19.11 (การจัดตั้งและการรวมตัวของคณะพิจารณา)
ข้อ 19.8: การร้องขอให้มีการจัดตั้งคณะพิจารณา
ข้อ 19.9: กระบวนการส าหรับกรณีมีผู้ฟ้องหลายคน
1. ภาคีผู้ฟ้องอาจขอให้มีการจัดตั้งคณะพิจารณาเพื่อพิจารณาวินิจฉัยเรื่อง โดยการแจ้ง
ไปยังภาคีผู้ถูกฟ้อง หาก 1. ในกรณีที่มีภาคีมากกว่าหนึ่งภาคีร้องขอให้จัดตั้งหรือรวมตัวของคณะพิจารณาที่เกี่ยวข้อง
กับเรื่องเดียวกัน หากท าได้ควรให้มีการจัดตั้งหรือรวมตัวของคณะพิจารณาเพียงคณะเดียว
(เอ) ภาคีผู้ถูกฟ้องไม่ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยค าฟ้องเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
(หนึ่ง) ตอบการร้องขอให้มีการปรึกษาหารือโดยเป็นไปตามอนุวรรค 5(เอ) 2. คณะพิจารณาคณะเดียวจะต้องจัดให้การพิจารณาวินิจฉัยและเสนอผลการพิจารณา
ของข้อ 19.6 (การปรึกษาหารือ) หรือ และการตัดสินของตนต่อกลุ่มภาคีที่พิพาทในลักษณะที่ไม่กระทบต่อสิทธิไม่ว่าทางใด
ซึ่งกลุ่มภาคีที่พิพาทพึงมีหากมีคณะพิจารณาแยกพิจารณาวินิจฉัยค าฟ้อง
(สอง) เข้าสู่การปรึกษาหารือโดยเป็นไปตามกับวรรค 6 ของข้อ 19.6
(การปรึกษาหารือ) หรือ 3. หากมีการจัดตั้งหรือรวมตัวของคณะพิจารณามากกว่าหนึ่งคณะเพื่อพิจารณาวินิจฉัยค าฟ้อง
ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเดียวกัน กลุ่มภาคีที่พิพาทจะต้องพยายามให้บุคคลเดียวกันท าหน้าที่
(บี) การปรึกษาหารือไม่สามารถยุติข้อพิพาทได้ภายใน เป็นผู้พิจารณาในแต่ละคณะพิจารณา คณะพิจารณาจะต้องปรึกษาหารือระหว่างแต่ละคณะ
และกลุ่มภาคีที่พิพาทเพื่อให้ตารางเวลาส าหรับกระบวนการท างานของคณะพิจารณาต่าง ๆ
(หนึ่ง) 20 วันหลังจากวันที่ภาคีผู้ถูกฟ้องได้รับการร้องขอให้มีการปรึกษาหารือ สอดคล้องกันให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ที่ด าเนินการตามวรรค 1 ของข้อ 19.6 (การปรึกษาหารือ) ในกรณีเร่งด่วน
ซึ่งรวมถึงกรณีที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่เน่าเสียได้ หรือ ข้อ 19.10: กลุ่มภาคีฝ่ายที่สาม
(สอง) 60 วันหลังจากวันที่ภาคีผู้ถูกฟ้องได้รับการร้องขอให้มีการปรึกษาหารือ 1. ผลประโยชน์ของกลุ่มภาคีที่พิพาทและของภาคีอื่นจะต้องได้รับการพิจารณา
ที่ด าเนินการตามวรรค 1 ของข้อ 19.6 (การปรึกษาหารือ) เกี่ยวกับเรื่องอื่นใด อย่างเต็มที่ในระหว่างกระบวนการท างานของคณะพิจารณา
2. การร้องขอให้มีการจัดตั้งคณะพิจารณาซึ่งด าเนินการตามวรรค 1 จะต้องระบุมาตรการ 2. ภาคีใดที่มีผลประโยชน์อย่างมีนัยส าคัญในเรื่องที่ได้เสนอต่อคณะพิจารณาอาจแจ้งต่อ
เฉพาะเจาะจงที่เป็นปัญหา และให้รายละเอียดของพื้นฐานของข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กลุ่มภาคีที่พิพาท ไม่ช้ากว่า 10 วันหลังจากวันที่มีการร้องขอตาม
ของค าฟ้องซึ่งคณะพิจารณาต้องพิจารณา ซึ่งรวมถึงบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องของความตกลง
ฉบับนี้ ที่เพียงพอในการแสดงให้เห็นปัญหาอย่างชัดเจน (เอ) วรรค 1 ของข้อ 19.8 (การร้องขอให้มีการจัดตั้งคณะพิจารณา) หรือ
3. ภาคีผู้ฟ้องจะต้องส่งส าเนาของการร้องขอให้จัดตั้งคณะพิจารณาที่ด าเนินการตามวรรค 1 (บี) วรรค 1 ของข้อ 19.16 (การทบทวนการปฏิบัติตาม) หรือ
ให้แก่ภาคีอื่นพร้อม ๆ กัน
(ซี) วรรค 13 ของข้อ 19.17 (การชดเชยค่าเสียหายและการระงับสิทธิประโยชน์หรือ
พันธกรณีอื่น)
19-5 19-6