Page 452 - คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป)
P. 452
- คำ�แปลอย่�งไม่เป็นท�งก�ร -
ภาคีที่แจ้งจะต้องส่งส าเนาการแจ้งให้แก่ภาคีอื่นพร้อม ๆ กัน 3. ภายใน 10 วันนับจากวันที่ได้รับการร้องขอให้จัดตั้งคณะพิจารณาที่ด าเนินการตามวรรค 1
ของข้อ 19.8 (การร้องขอให้มีการจัดตั้งคณะพิจารณา) กลุ่มภาคีที่พิพาทจะต้องเข้าสู่
3. ภาคีใดที่แจ้งว่าตนมีผลประโยชน์อย่างมีนัยส าคัญตามวรรค 2 จะต้องได้รับสิทธิ การปรึกษาหารือเพื่อที่จะบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับกระบวนการส าหรับการจัดองค์ประกอบ
และมีพันธกรณีของภาคีฝ่ายที่สาม ของคณะพิจารณา โดยค านึงถึงพฤติการณ์แวดล้อมด้านข้อเท็จจริง ด้านเทคนิค
และด้านกฎหมายของข้อพิพาท ทั้งนี้ ให้ใช้กระบวนการใดที่ได้ตกลงกันดังกล่าวเพื่อ
4. ภายใต้การคุ้มครองข้อมูลที่เป็นความลับ ภาคีที่พิพาทแต่ละฝ่ายจะต้องจัดให้ภาคีฝ่ายที่สาม ความมุ่งประสงค์ของวรรค 15 และ 16 ด้วย
มีค าให้การเป็นลายลักษณ์อักษร ค าแถลงด้วยวาจาที่จัดท าเป็นลายลักษณ์อักษร และ
ค าตอบต่อค าถามเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งได้จัดท าก่อนการออกรายงานฉบับชั่วคราว 4. หากกลุ่มภาคีที่พิพาทไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับกระบวนการส าหรับการ
ในเวลาที่มีการส่งค าให้การ ค าแถลงและค าตอบดังกล่าวให้แก่คณะพิจารณา จัดองค์ประกอบของคณะพิจารณาได้ภายใน 20 วันนับจากวันที่ได้รับการร้องขอ
ให้มีการจัดตั้งคณะพิจารณาตามวรรค 1 ของข้อ 19.8 (การร้องขอให้มีการจัดตั้งคณะ
5. ภาคีฝ่ายที่สามจะต้องมีสิทธิที่จะ พิจารณา) เมื่อใดก็ได้หลังจากนั้น ภาคีที่พิพาทใดอาจแจ้งต่อภาคีที่พิพาทอื่นว่าประสงค์
จะใช้กระบวนการที่ระบุไว้ในวรรค 5 ถึง 7 เมื่อมีการแจ้งดังกล่าว ให้มีการจัดองค์ประกอบ
(เอ) ปรากฏตัวระหว่างการรับฟังของคณะพิจารณาครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สอง พร้อมกับ คณะพิจารณาโดยเป็นไปตามวรรค 5 ถึง 7
กลุ่มภาคีที่พิพาทก่อนการออกรายงานฉบับชั่วคราว ภายใต้การคุ้มครองข้อมูล
ที่เป็นความลับ 5. ภาคีผู้ฟ้องจะต้องแต่งตั้งผู้พิจารณาหนึ่ง (1) คนภายใน 10 วันนับจากวันที่ได้รับการแจ้งตาม
วรรค 4 ภาคีผู้ถูกฟ้องจะต้องแต่งตั้งผู้พิจารณาหนึ่งคนภายใน 20 วันนับจากวันที่ได้รับการแจ้ง
(บี) จัดท าค าให้การเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างน้อยหนึ่ง (1) ฉบับก่อนการรับฟังครั้งแรก ตามวรรค 4 ภาคีที่พิพาทจะต้องแจ้งการแต่งตั้งผู้พิจารณาของตนให้ภาคีที่พิพาทอีกฝ่ายทราบ
(ซี) แถลงด้วยวาจาต่อคณะพิจารณาและตอบค าถามของคณะพิจารณาระหว่างการรับฟัง 6. หลังจากการแต่งตั้งผู้พิจารณาโดยเป็นไปตามวรรค 5 กลุ่มภาคีที่พิพาทจะต้องตกลงกัน
ครั้งแรกในช่วงเวลาที่จัดไว้เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว และ เพื่อแต่งตั้งผู้พิจารณาคนที่สาม ซึ่งจะต้องท าหน้าที่เป็นประธานคณะพิจารณา เพื่อช่วยในการ
บรรลุข้อตกลงดังกล่าว ภาคีที่พิพาทแต่ละฝ่ายอาจให้รายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้ง
(ดี) ตอบค าถามเป็นลายลักษณ์อักษรต่อค าถามใด ๆ ของคณะพิจารณาซึ่งมีต่อ เป็นประธานคณะพิจารณาไม่เกินสาม (3) คนแก่ภาคีที่พิพาทอีกฝ่าย
กลุ่มภาคีฝ่ายที่สาม
7. หากไม่มีการแต่งตั้งผู้พิจารณาใด ๆ ภายใน 35 วันนับจากวันที่ได้รับการแจ้งตามวรรค 4
6. หากภาคีฝ่ายที่สามส่งค าให้การหรือเอกสารอื่นใดให้แก่คณะพิจารณา ภาคีฝ่ายที่สามจะต้อง ภายในระยะเวลาอีก 25 วัน ภาคีที่พิพาทใดอาจร้องขอต่อผู้อ านวยการของดับบลิว ที โอ
ให้เอกสารดังกล่าวแก่กลุ่มภาคีที่พิพาทและภาคีฝ่ายที่สามอื่นพร้อม ๆ กัน ให้แต่งตั้งผู้พิจารณาที่เหลือภายใน 30 วันนับจากวันที่มีค าร้องดังกล่าว ให้ส่งรายชื่อผู้ได้รับ
การเสนอซึ่งได้ให้ไว้ภายใต้วรรค 6 แก่ผู้อ านวยการของดับบลิว ที โอ โดยอาจใช้รายชื่อ
7. คณะพิจารณาอาจให้สิทธิเพิ่มเติมหรือเพิ่มขึ้นต่อภาคีฝ่ายที่สามใดในส่วนของการเข้าร่วม ดังกล่าวในการแต่งตั้งที่จ าเป็น
ในกระบวนการของคณะพิจารณา หากกลุ่มภาคีที่พิพาทตกลงเห็นชอบ
8. หากผู้อ านวยการของดับบลิว ที โอ แจ้งกลุ่มภาคีที่พิพาทว่า เขาหรือเธอไม่สะดวก หรือไม่สามารถ
ข้อ 19.11: การจัดตั้งและการรวมตัวของคณะพิจารณา แต่งตั้งผู้พิจารณาที่เหลือได้ภายใน 30 วันนับจากวันที่มีการร้องขอตามวรรค 7 ภาคีที่พิพาทใด
อาจร้องขอให้เลขาธิการของศาลประจ าอนุญาโตตุลาการแต่งตั้งผู้พิจารณาที่เหลือได้
1. เมื่อมีการร้องขอให้จัดตั้งคณะพิจารณาตามวรรค 1 ของข้อ 19.8 (การร้องขอให้มีการจัดตั้ง โดยพลัน ให้ส่งรายชื่อผู้ได้รับการเสนอ ซึ่งได้ให้ไว้ภายใต้วรรค 6 แก่เลขาธิการของศาล
คณะพิจารณา) ให้จัดตั้งคณะพิจารณาโดยเป็นไปตามข้อนี้ ประจ าอนุญาโตตุลาการถาวรด้วย และอาจใช้รายชื่อดังกล่าวในการแต่งตั้งที่จ าเป็นภายใต้
3
วรรค 12
2. เว้นแต่กลุ่มภาคีที่พิพาทจะตกลงเป็นอย่างอื่น คณะพิจารณาจะต้องประกอบด้วยผู้พิจารณา
สาม (3) คน การแต่งตั้งและการเสนอชื่อผู้พิจารณาทั้งหมดภายใต้ข้อนี้จะต้องสอดคล้อง 3 เพื่อความชัดเจนยิ่งขึ้น จะไม่น ากฎอนุญาโตตุลาการของคณะกรรมาธิการแห่งสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมาย
กับข้อก าหนดที่อ้างถึงในวรรค 10 และ 13 การค้าระหว่างประเทศ (อังซิทรัล) มาใช้ในการแต่งตั้งผู้พิจารณาที่เหลือภายใต้วรรคนี้
19-7 19-8