Page 65 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่องปราสาทเขมรสมัยบาปวน
P. 65

มัตติ กุมมุ ยังชี้ให3เห็นวFา บFอน้ำ ตระพัง บาราย รวมทั้งแนวคูคลองที่เมืองพระนครนั้น

                    (ภาพที่ 35) ไมFเพียงแตFรองรับน้ำจากแมFน้ำ (ได3แกF โรลัวะ เสียมเรียบ และสตึงปวก ที่มีจุดกำเนิดมา

                    จากพนมกุเลน) หรือพึ่งพาน้ำฝนตามฤดูกาลเทFานั้น แตFยังต3องอาศัยน้ำใต3ดินด3วยโดยเฉพาะกรณีคูน้ำ
                    ล3อมรอบปราสาทซึ่งไมFมีทางน้ำไปตFอเชื่อมกับลำน้ำธรรมชาติ โดยระดับน้ำใต3ดินบริเวณเมือง

                    พระนครอยูFที่ความลึกประมาณ 0 – 5 เมตรในฤดูฝนและฤดูแล3งตามลำดับ (Kummu, 2009: 1415)












































                       ภาพที่ 35 แผนผังแสดงลักษณะของคูน้ำ ตระพัง และบาราย ในประเทศกัมพูชา (โดยเฉพาะเมืองพระนคร)
                                                  (ที่มา: Kummu, 2009: Fig.3)


                           สFวนการศึกษาพื้นที่เกษตรกรรมหรือแปลงนารอบ ๆ ปราสาทบริเวณเมืองพระนครนั้น

                    สก็อต ฮอวUเกน (Scott Hawken) อธิบายไว3อยFางนFาสนใจวFามีแปลงนา 2 ระบบในสมัยเขมรโบราณ
                    (Hawken, 2013: 350 – 364) คือ

                           1) แปลงนาสี่เหลี่ยมมุมฉาก (ทั้งจัตุรัสและผืนผ3า) หรือ orthogonal (square/rectilinear)
                    system ซึ่งแตFละแปลงมักวางตัวขนานกันตามแนวแกนทิศตะวันออก-ตะวันตก คือขนานไปกับ

                    ปราสาท ตระพัง หรือบาราย โดยแปลงนาสี่เหลี่ยมจัตุรัสมักมีขนาดกว3าง 30 – 40 เมตร ตัวอยFางเชFน





                                                            58
   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70