Page 280 - เอกสารคำสอนทวารวดี - ศรีวิชัย
P. 280
แม้ว่าจะยังไม่อาจหาค าอธิบายที่แน่ชัดได้ว่า โบราณวัตถุและอินทรีย์วัตถุที่พบในเรือจม
พนมสุรินทร์ส่วนหนึ่งเป็นผลผลิตของบ้านเมืองในภาคกลางของประเทศไทยหรือไม่ ? หรือ
แม้แต่จุดแวะพักที่เรือล านี้แล่นเข้ามา (เพื่อแลกเปลี่ยนสินค้า ? หรือซ่อมแซมเรือ ?) ยังเมือง
สมัยทวารวดีแห่งใดแห่งหนึ่งคือที่ใด ? แต่ขณะนี้นักโบราณคดีผู้ขุดค้นก็มีความเห็นค่อนข้าง
ชัดเจนแล้วว่า เรือจมพนมสุรินทร์น่าจะมีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 14 – 15 เพราะได้พบ
เครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์ถังเป็นจ านวนมากซึ่งก าหนดอายุอยู่ในช่วงเวลาดังกล่าว
หลักฐานใหม่ที่พบนี้ถือเป็นข้อมูลที่สอดคล้องกับการค้นพบภาพสลักใบหน้าชาวมุสสิม
ที่เจดีย์จุลประโทนที่เมืองโบราณนครปฐม (ภาพที่ 77 ในบทที่ 4) ตลอดจนสัมพันธ์กับผลการ
ขุดค้นแหล่งโบราณคดีที่กล่าวถึงข้างต้นซึ่งพบการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมบางประการ
เกิดขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ 14 – 15 นั่นคือการปรากฏวัตถุที่มาจากต่างถิ่นทั้งจากจีนและ
ตะวันออกกลางนั่นเอง
6.5 สรุปลักษณะของวัฒนธรรมสมัยทวารวดี
“ทวารวดี” เป็นวัฒนธรรมสมัยประวัติศาสตร์ตอนต้นที่เจริญขึ้นบนดินแดนประเทศไทย
ในปัจจุบัน ในช่วงราวพุทธศตวรรษที่ 12 – 16 (ราว พ.ศ. 1100 – 1600) โดยมีพื้นฐานมาจาก
วัฒนธรรมในช่วงสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลายและหัวเลี้ยวประวัติศาสตร์ ซึ่งได้รับอิทธิพล
จากอารยธรรมอินเดียที่เข้ามามีบทบาทอย่างมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลให้
เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพวิถีชีวิตของผู้คนดั้งเดิมไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการยอมรับนับถือ
ศาสนา ซึ่งมีทั้งพุทธศาสนาหีนยานหรือเถรวาทที่เป็นหลักยึดถือของชาวทวารวดีโดยทั่วไป
และศาสนาพราหมณ์ที่ปรากฏในราชส านักกษัตริย์ ซึ่งการปกครองระบอบกษัตริย์นั้นก็คงจะ
ปรับปรุงมาจากต้นแบบคืออินเดียนั่นเอง
หลักฐานของวัฒนธรรมทวารวดีที่หลงเหลือให้ศึกษามีทั้งร่องรอยของชุมชนหรือ
เมืองโบราณ จารึก โบราณสถาน และโบราณวัตถุ แม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่อาจระบุได้อย่างแน่ชัด
ว่าชนพื้นเมืองทวารวดีเป็นใครหรือเชื้อชาติใด แต่วัฒนธรรมนี้คงผูกพันกับกลุ่มคนพื้นเมืองที่ใช้
ภาษามอญโบราณ โดยเชื่อว่ามีศูนย์กลางทางวัฒนธรรมอยู่ในเขตภาคกลางฝั่งตะวันตกของ
ประเทศไทยในปัจจุบัน (แถบเมืองนครปฐม-อู่ทอง-คูบัว) ก่อนจะแพร่หลายไปอย่างกว้างขวางสู่
ภูมิภาคต่างๆ ซึ่งมีบ้านเมืองโบราณตั้งถิ่นฐานอยู่ตามที่ราบลุ่มแม่น ้าส าคัญๆ หลายแห่ง
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานว่าบ้านเมืองตามภูมิภาคต่างๆ ที่ปรากฏ
ร่องรอยของวัฒนธรรมทวารวดีนี้อยู่ภายใต้ระบบการปกครองของอาณาจักรหรือรัฐที่มีศูนย์
อ านาจเดียว เพราะพบว่าคงมีบ้านเมืองชื่ออื่นๆ เจริญขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันด้วย เช่น ลวปุระ
(เมืองลพบุรี), ศามพูกะ หรือจนาศปุระ อีกทั้งแต่ละภูมิภาคก็มีความหลากหลายหรือมีเอกลักษณ์
เฉพาะทางวัฒนธรรมของตนเอง ดังนั้นการแพร่หลายของวัฒนธรรมทวารวดีคงเกิดขึ้นจาก
การเผยแผ่พระพุทธศาสนา ตลอดจนการติดต่อค้าขายแลกเปลี่ยนเป็นส าคัญ
274