Page 185 - ทวารวดี ประตูสู่การค้าบนเส้นทางสายไหมทางทะเล
P. 185

การศึกษาธาตุองค์ประกอบหลักของลูกปัดแก้วด้วยวิธีการทาง
              วิทยาศาสตร์พบว่า ลูกปัดแก้วจากแหล่งโบราณคดีมณิโคไลเกือบทั้งหมด
                                                    160
              เป็นลูกปัดแก้วอลูมิน่า (หรือ m-Na-Al  glass)  ซึ่งเป็นกลุ่มลูกปัดแก้ว
              สีเดียวที่พบแล้วในหลายพื้นที่ ตั้งแต่ทางตะวันออกของทวีปแอฟริกา
              เอเชียใต้ (ซึ่งน่าจะเป็นแหล่งผลิตหลัก) เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จนถึงแถบ
              เอเชียตะวันออก (พบที่ประเทศเกาหลีด้วย) โดยเริ่มผลิตขึ้นตั้งแต่ราว
                                                         161
              พุทธศตวรรษที่ 1 และเป็นที่นิยมจนถึงในสมัยหลังมาก  ดังนั้นลูกปัดแก้ว
              จึงเป็นสินค้าอีกประเภทหนึ่งในเครือข่ายการค้าระหว่างประเทศตามเส้นทาง

              สายไหมทางทะเล

              บทบาทของชนพื้นเมืองในน่านน ้ามหาสมุทรอินเดียและเอเชีย
                       ตะวันออกเฉียงใต้

                       จากที่กล่าวมาข้างต้น ท าให้เราไม่อาจปฏิเสธได้ถึงบทบาทของ
              พ่อค้า (หรือนักเดินเรือ) จากภูมิภาคตะวันออกกลาง (ทั้งชาวเปอร์เซียและ
              อาหรับ) รวมทั้งพ่อค้าชาวจีนซึ่งอาจอาศัยไปกับเรือสินค้าที่ต่อขึ้นจาก
              ตะวันออกกลางและล่องค้าขายไปมาในน่านน ้ามหาสมุทรอินเดียและทะเลจีน
              ใต้ แต่ส าหรับพ่อค้าพื้นเมืองแถบนี้ ทั้งชาวอินเดียและคนพื้นถิ่นเอเชียตะวัน

              อออกเฉียงใต้เองกลับยังไม่เป็นที่ทราบกันถึงบทบาทมากนัก
                       ในการศึกษาเรื่องสมาคมพ่อค้าชาวอินเดียใต้ที่มีบทบาทใน
              การค้าในมหาสมุทรอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของโนโบรุ คาราชิม่า
              (Noboru Karashima) พบว่า สมาคมพ่อค้า “มณิกกิรมัม” ซึ่งปรากฏตัวอยู่ใน
              จารึกภาษาทมิฬ พบที่อ าเภอกะปง จังหวัดพังงา ได้ด าเนินกิจกรรมทาง
              การค้าในแถบรัฐทมิฬนาดูและรัฐเคราล่า (Kerala)  ทางตอนใต้ของประเทศ

              อินเดีย ในช่วงประมาณพุทธศตวรรษที่ 14-15 แต่ก็ได้พบจารึกที่กล่าวถึงอีก
                                                   162
              บ้างในสมัยหลังลงมาในช่วงพุทธศตวรรษที่ 19  สมาคมพ่อค้าอีกสมาคม
              หนึ่งที่มีบทบาทควบคู่กันคือ สมาคม “อัญชุวัณณัม” (anjuvannam) ซึ่งคอย




                                          174
   180   181   182   183   184   185   186   187   188   189   190