Page 187 - ทวารวดี ประตูสู่การค้าบนเส้นทางสายไหมทางทะเล
P. 187
แม้ว่าจารึกหลักนี้จะมีอายุหลังจากพุทธศตวรรษที่ 16 ไปแล้ว
แต่ก็น่าจะท าให้พอมองเห็นภาพของการติดต่อสัมพันธ์กันทางใดทางหนึ่ง
ระหว่างสมาคมพ่อค้าชาวอินเดียใต้กับชนพื้นเมืองได้ เพราะเอกสารของ
อาหรับอย่างน้อยตั้งแต่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 14-15 เช่น Akhbar al;Sin
wa’l-Hind (ราว พ.ศ. 1393) หรือ Ibn Khudadhbin และ Aja’ib al’Hind
ก็กล่าวถึง “มนุษย์กินคน” ทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ซึ่งนอกจากมี
168
การบูรชั้นดีแล้วยังเป็นแหล่งแร่ทองค าอีกด้วย
ขณะที่เอกสารฝ่ายจีนได้กล่าวถึงกลุ่มคนที่เรียกว่า คุนหลุน
(Kunlun) ซึ่งน่าจะเป็นกลุ่มชนพื้นเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แถบหมู่
เกาะและบริเวณช่องแคบมะละกา โดยพระภิกษุอี้จิงพรรณนารูปพรรณ
169
สัณฐานไว้ว่ามีผิวคล ้าและผมหยิก (ภาพเขียนราชทูตจากลังกาสุกะที่
เดินทางไปประเทศจีนคือหลักฐานที่ยืนยันค ากล่าวนี้) ส่วนเอกสารประเภท
จารึกในสมัยศรีวิชัยแสดงให้เห็นถึงการใช้ภาษามลายูโบราณ ทั้งบนเกาะ
สุมาตรา เกาะชวา และเลยไปไกลถึงตอนเหนือของประเทศฟิลิปปินส์ ดังนั้น
ชนพื้นเมืองที่มีบทบาทในการค้าทางทะเลแถบนี้อาจเป็นกลุ่มคนที่ใช้ภาษา
170
มลายูโบราณ (orang Malayu)
จากการศึกษาข้อมูลทางโบราณคดีและชาติพันธุ์วรรณาของ
เลียวนาร์ด อันดาย่า (Leonard Andaya) แห่งมหาวิทยาลัยฮาวาย พบว่า
ในสมัยศรีวิชัยนั้นชนพื้นเมืองกลุ่มโอรัง ละอุต (Orang Laut – เป็นภาษา
มลายู ในประเทศไทยเรียกว่า อูรักลาโว้ย หรือคนทะเล) คงท าหน้าที่ดูแล
171
เส้นทางเดินของเรือสินค้าที่จะล่องเข้ามายังเมืองท่าต่างๆ นอกจากนี้ยังมี
ชนพื้นเมืองกลุ่มโอรัง อัสลี (Orang Asli – เป็นภาษามลายู ส่วนใน
อินโดนีเซียเรียกว่า Suku Terasing) ซึ่งอาศัยอยู่ตอนในของแผ่นดินหรือหมู่
เกาะ ชาวโอรัง อัสลี มีบทบาทในการสรรหาทรัพยากรธรรมชาติหรือของป่า
ที่เป็นสินค้าส าคัญในตลาดโลกออกมาแลกเปลี่ยนกับตลาดที่ตั้งอยู่ตามเมือง
172
ท่าค้าขายชายฝั่งทะเล ซึ่งเราจะเห็นได้อย่างชัดเจนจากกรณีของการ
176