Page 72 - ทวารวดี ประตูสู่การค้าบนเส้นทางสายไหมทางทะเล
P. 72
จนกระทั่งในรัชกาลของจักรพรรดิอู่ตี้ (ครองราชย์ พ.ศ. 403–456)
แห่งราชวงศ์ฮั่น จีนจึงสามารถเชื่อมโยงเส้นทางการค้าทางบกจาก
เมืองหลวงคือ นครฉางอัน (มณฑลส่านซี) ไปยังเอเชียกลาง เพื่อเดินทาง
ค้าขายต่อไปยังอินเดีย เปอร์เซีย และโรมัน เกิดเป็นเส้นทางสายไหมทางบก
7
ขึ้น ขณะเดียวกันจักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ก็ทรงขยายอ านาจลงมายังดินแดนของ
ชาวเยว่ด้วย พระองค์ทรงสามารถจัดการจนดินแดนทางใต้ตกอยู่ภายใต้การ
8
ปกครองของจีน นับแต่นั้นเป็นต้นมาพ่อค้าชาวจีนฮั่นและวัฒนธรรมจาก
9
ภาคเหนือก็หลั่งไหลลงมายังภาคใต้และตอนเหนือของเวียดนาม อันถือเป็น
จุดเริ่มต้นของการเปิดประตูการค้าตามเส้นทางสายไหมทางทะเล (Maritime
10
Silk Road)
การติดต่อค้าขายตามเส้นทางสายไหมทางทะเลในสมัยราชวงศ์ฮั่น
ความส าคัญของเส้นทางสายไหมทางทะเลมีข้อมูลปรากฏอยู่ใน
เอกสารของจีนในสมัยราชวงศ์ต่างๆ ซึ่งกล่าวถึงการเดินทางของคณะทูต
จากจีนไปติดต่อสัมพันธ์กับบางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และ
อินเดีย รวมทั้งการเดินทางไปถวายเครื่องบรรณาการแก่องค์จักรพรรดิจีน
ของคณะทูตจากประเทศต่างๆ (ซึ่งมีจ านวนมากกว่ากรณีแรกหลายเท่าตัว)
เอกสารเก่าที่สุดที่กล่าวถึงคณะทูตจีนที่เดินทางผ่านมายังเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใต้เพื่อต่อไปยังประเทศอินเดียคือ Ch’ien Han Shu
ซึ่งรวบรวมเสร็จเมื่อประมาณ พ.ศ. 623 ระบุว่ามีคณะทูตสมัยราชวงศ์ฮั่น
ล่องเรือเลียบชายฝั่งจากเมืองท่าทางตอนเหนือของเวียดนาม (Jih-nan)
ผ่านมายังดินแดนที่ชื่อ Shen-li และ Fu-kan-tu-lu ที่สันนิษฐานว่าอยู่ทาง
ตอนบนของคาบสมุทรมลายู ก่อนลงเรือต่อไปยัง Huang-chih หรือประเทศ
อินเดีย (ทางตะวันออกเฉียงใต้) (แผนที่ที่ 3) เมื่อไปถึงก็มีการหาซื้อสินค้า
เช่น ไข่มุก แก้วทึบแสง (opaque glass) หินหายาก โดยแลกเปลี่ยนกับ
61