Page 121 - ทบทวนตัวชี้วัดเพื่อกำกับติดตามคุณภาพบริการด้านโรคไม่ติดต่อ พ.ศ. 2563 - 2566
P. 121
แนวทำงกำรวินิจฉัยโรคควำมดันโลหิตสูง
การวินิจฉัยโรคความดันโลหิตสูงใช้อ้างอิงจากระดับความดันโลหิตที่วัดได้จากสถานพยาบาล
เป็นหลัก แต่การวัดอาจมีความคลาดเคลื่อนได้จากสาเหตุต่างๆ เช่น สิ่งแวดล้อมของห้องตรวจ อุปกรณ์
วัดความดันโลหิต ความพร้อมของผู้ถูกตรวจ และอาจท�าให้ระดับความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์สูงหรือ
ต�่าเกินจริง ดังนั้นจึงควรจัดระดับการวินิจฉัยเบื้องต้นจากผลการวัดความดันโลหิตในครั้งแรกที่มาพบแพทย์
เป็น 4 ระดับ ดังนี้
ระดับที่ 1 High normal blood pressure (ระดับความดันโลหิตในเกณฑ์เกือบสูง) หมายถึง
ค่าความดันโลหิตเฉลี่ยจากการตรวจครั้งแรกที่สถานพยาบาล มีค่าตั้งแต่ 130/85 mmHg แต่ยังไม่ถึง
140/90 mmHg หากตรวจพบว่ามีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด สามารถวินิจฉัย
ว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้ แม้จะมีระดับความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์เกือบสูงเท่านั้น การตรวจว่ามี
ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดอยู่ในเกณฑ์สูง ใช้ผลการประเมินและตรวจพบหัวข้อใด
หัวข้อหนึ่งต่อไปนี้ อย่างน้อย 1 หัวข้อ
ก. มี target organ damage (TOD)
ข. มีหรือเคยได้รับการวินิจฉัยว่ามีโรคหัวใจและหลอดเลือด (cardiovascular disease, CVD)
ค. มีหรือเคยได้รับการวินิจฉัยว่ามีโรคเบาหวาน (diabetes mellitus, DM)
ง. ประเมินความเสี่ยงของโอกาสการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดใน 10 ปีข้างหน้าได้มากกว่า
ร้อยละ 10
ระดับ 2 Possible Hypertension (อาจเป็นโรคความดันโลหิตสูง) หมายถึง ค่าความดันโลหิตเฉลี่ย
จากการตรวจครั้งแรกที่สถานพยาบาล มีค่าตั้งแต่ 140/90 mmHg ขึ้นไป แต่ยังไม่ถึง 160/100 mmHg
หากตรวจพบว่ามีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรวินิจฉัยว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง
ได้เลย
ระดับ 3 Probable Hypertension (น่าจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง) หมายถึง ค่าความดันโลหิต
เฉลี่ยจากการตรวจครั้งแรกที่สถานพยาบาล มีค่าตั้งแต่ 160/100 mmHg ขึ้นไป แต่ยังไม่ถึง 180/110 mmHg
หากตรวจพบว่ามีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรวินิจฉัยว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง
ได้เลย
ระดับ 4 Definite Hypertension (เป็นโรคความดันโลหิตสูง) หมายถึง ค่าความดันโลหิตเฉลี่ย
จากการตรวจครั้งแรกที่สถานพยาบาล มีค่าตั้งแต่ 180/110 mmHg ขึ้นไป ให้วินิจฉัยว่าเป็นโรคความดัน
โลหิตสูงได้เลย แม้ว่าไม่มีอาการใดๆ และแม้ว่าผลการตรวจประเมินจะพบว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิด
โรคหัวใจและหลอดเลือดไม่สูง
ผู้ที่มีค่าความดันโลหิตเฉลี่ยจากการตรวจครั้งแรกที่สถานพยาบาลอยู่ในระดับ 1 ถึงระดับ 3
ที่ผลตรวจประเมินไม่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรได้รับการตรวจเพิ่มเติม
โดยการวัดความดันโลหิตด้วยตนเองที่บ้าน (Home Blood Pressure Monitoring, HBPM)/การวัด
ความดันโลหิตด้วยเครื่องชนิดติดตัวพร้อมวัดอัตโนมัติ (Ambulatory Blood Pressure Monitoring,
ABPM) หรือโดยวิธีการนัดมาวัดความดันโลหิตที่สถานพยาบาลซ�้า (Office Blood Pressure Monitoring,
OBPM) ตามก�าหนด รายละเอียดดังรูปภาพที่ 3 แนวทางการวินิจฉัยโรคความดันโลหิตสูง
ทบทวนตัวชี้วัดเพื่อกำ�กับติดตามคุณภาพบริการด้านโรคไม่ติดต่อ 109 NCD
พ.ศ.�2563-2566