Page 127 - ทบทวนตัวชี้วัดเพื่อกำกับติดตามคุณภาพบริการด้านโรคไม่ติดต่อ พ.ศ. 2563 - 2566
P. 127

1. Q & A ประเด็นโรคเบาหวาน (ต่อ)
                                          1. Q & A ประเด็นโรคเบาหวาน
               Q7: กรณีคัดกรองเบา     A7: ไม่สามารถตรวจติดตามยืนยันกลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานภายใน
               หวานแล้วค่าระดับน�้าตาล วันเดียวกันได้ เนื่องจากหากตรวจในวันเดียวกัน อาจท�าให้ค่าระดับน�้าตาล
               ในเลือดเข้าข่ายเป็นกลุ่ม  ในเลือดมีความแปรปรวนในช่วงที่ท�าการตรวจเลือด เช่น การรับประทาน
               สงสัยป่วยเบาหวาน หน่วย อาหารในระยะเวลาสั้นๆ, ความเครียด และการเจ็บป่วย เป็นต้น
               บริการสามารถเจาะเลือดผู้ ดังนั้นควรตรวจยืนยันด้วย FPG ซ�้าในวันถัดไป เพื่อยืนยันค่าระดับน�้าตาล
               สงสัยป่วยภายในวัน      ในเลือด และส่งต่อพบแพทย์วินิจฉัยต่อไป
               เดียวกันแล้วแช่ไว้ในตู้เย็น   รายละเอียดตัวชี้วัดร้อยละการตรวจติดตามยืนยันวินิจฉัยกลุ่มสงสัยป่วย
               เพื่อส่งตรวจ FPG ที่โรง  โรคเบาหวานปี 2566 ให้ การตรวจยืนยันกลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวาน
               พยาบาลทางห้องปฏิบัติ   สามารถตรวจติดตามยืนยันวินิจฉัยได้ตั้งแต่ 1 วันถัดไป กลุ่มสงสัยป่วย
               การในวันถัดไปได้หรือไม่  โรคเบาหวาน ต้องได้รับการตรวจยืนยันโดยการตรวจระดับพลาสมากลูโคส
                                      หลังอดอาหารมากกว่า 8 ชั่วโมง (FPG) ทางห้องปฏิบัติการ ในสถานบริการ
                                      สาธารณสุข โดยสามารถตรวจติดตามยืนยันวินิจฉัยได้ตั้งแต่ 1 วันถัดไป
                                      หลังจากวันที่คัดกรองและเป็นผู้สงสัยป่วยเบาหวาน (ภายใน 180 วัน)
                                      ตามแนวทางเวชปฏิบัติส�าหรับโรคเบาหวาน
                                      หมายเหตุ : ผู้ที่สงสัยป่วยเบาหวานต้องได้รับการตรวจติดตามวินิจฉัย
                                      ภายใน 1-180 วัน โดยไม่ต้องเข้ารับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก่อน
              หมายเหตุ: สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคเบาหวานได้ที่ “แนวทางเวชปฏิบัติส�าหรับ

              โรคเบาหวาน 2560”


                                       2. Q & A ประเด็นโรคความดันโลหิตสูง

               Q1: ผู้ป่วยโรคความดัน  A1: ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้ดูแล ระยะเวลาการออกฤทธิ์ของยา
               โลหิตสูง ต้องทานยา     รวมถึงบริบทของพื้นที่
               ก่อนมาตรวจตามนัดที่
               โรงพยาบาลทุกครั้งหรือไม่

               Q2: มีความจ�าเป็นต้องท�า  A2: มีหลักฐานสนับสนุนว่า การวัดความดันโลหิตโดยวิธี HBPM มีส่วนช่วย
               Home Blood Pressure  กระตุ้นให้ผู้ป่วยรับประทานยาลดความดันโลหิตอย่างต่อเนื่อง ท�าให้
               Monitoring (HBPM)      ควบคุมความดันโลหิตได้ดีขึ้น โดยผลที่ได้จากการท�า HBPM สามารถน�าไป

               ในกรณีที่ผู้ป่วยได้รับ   ใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจเริ่ม หรือปรับเปลี่ยนการรักษา และแนะน�า
               การวินิจฉัยโรคความดัน  ให้ติดตามระดับความดันโลหิตจาก HBPM เป็นระยะ โดยเฉพาะหลังจาก
               โลหิตสูง และเริ่มทานยา  เริ่มหรือมีการปรับเปลี่ยนยาลดความดันโลหิต แต่ไม่แนะน�าให้ผู้ป่วย
               หรือปรับยา แต่ยังมีระดับ  ปรับขนาดยาลดความดันโลหิตด้วยตนเอง
               ความดันโลหิตสูง หรือไม่









                                                ทบทวนตัวชี้วัดเพื่อกำ�กับติดตามคุณภาพบริการด้านโรคไม่ติดต่อ  115  NCD
                                                                             พ.ศ.�2563-2566
   122   123   124   125   126   127   128   129   130   131   132