Page 4 - ข่าวเนติบัณฑิตยสภา เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๗ ปีที่ ๓๗ ฉบับที่ ๔๒๐
P. 4
2. การที�พูระภิกษุอยู่ประจำาที�นาน ๆ ย่อมมีโอกาส หลืักทาน ศีลืแลืะภาวนา แลืะความไม่ประมาทในการประกอบั
ได้สงเคราะห์กุลืบัุติรที�ประสงค์จะอุปสมบัทเพู้�อศ่กษา คุณความดีอ้�น ๆ
พูระธรรมวินัย แลืะสงเคราะห์พูุทธบัริษัททั�วไป ติามประวัติิศาสติร์ พูุทธศาสนิกชนชาวไทย ได้เริ�ม
3. เป็นเทศกาลืที�พูุทธศาสนิกชนงดเว้นอบัายมุข่ บัำาเพู็ญกุศลืเน้�องในเทศกาลืเข่้าพูรรษานี�ติั�งแติ่สมัย
แลืะความชั�วติ่าง ๆ เช่น การด้�มสุรา สิ�งเสพูติิด แลืะการ กรุงสุโข่ทัย เป็นราชธานี ดังข่้อความในศิลืาจาร่กข่อง
เที�ยวเติร่ไร้สาระ เป็นติ้น พู่อขุ่นรามคำาแหงมหาราช ว่า
4. นอกจากเป็นเทศกาลืที�พูุทธศาสนิกชนงดเว้น ...."พู่ อขุ่นรามคำาแหงเจ้าเม้องสุ โข่ทัยนี�
อบัายมุข่แลืะความชั�วติ่าง ๆ แลื้ว ในช่วงเข่้าพูรรษา ทั�งชาวแม่ชาวเจ้า ท่วยปั� วท่วยนาง ลืูกเจ้าลืูกขุ่น
พูุทธศาสนิกชนทั�วไปจะบัำาเพู็ญทาน รักษาศีลื ฟัังธรรม แลืะ ทั�งสิ�นทั�งหลืายทั�งผู้ชายผู้ญีง ฝูงท่วยมีศรัทธาใน
เจริญภาวนามากข่่�น พูระพูุทธศาสนา ทรงศีลืเม้�อพูรรษาทุกคน เม้�อออกพูรรษา
กราน…."
ประวัต่ิความเป็นื่มา นอกจากการรักษาศีลืแลื้ว พูุทธศาสนิกชนไทยใน
เม้�อครั�งที�สมเด็จพูระสัมมาสัมพูุทธเจ้าทรงประทับั สมัยสุโข่ทัยนั�น ยังได้บัำาเพู็ญกุศลือ้�น ๆ ดังรายลืะเอียด
อยู่ ณ วัดเวฬุุวัน เม้องราชคฤห์ แคว้นมคธ มีเหติุการณ์ ปรากฏ์อยู่ในหนังส้อนางนพูมาศ พูอสรุปได้ ค้อ เม้�อ
เกิดข่่�นค้อ พูวกชาวบั้านกลืุ่มหน่�งพูากันกลื่าวติำาหนิ ถ่งเด้อน 8 พูระภิกษุสงฆ์ทุกรูปจะได้เข่้าจำาพูรรษา ใน
พูระสงฆ์ในพูระพูุทธศาสนาว่า ไม่รู้จักกาลืเวลืาพูากัน พูระอารามติ่าง ๆ พูระบัาทสมเด็จพูระเจ้าอยู่หัวมีรับัสั�งให้
จาริกไปเร้�อย ๆ ไม่หยุดยั�งแม้ในระหว่างฤดูฝน บัางครั�งก็ จัดเสนาสนะถวาย พูร้อมทั�งบัริข่ารอันควรแก่สมณะบัริโภค
ไปเหยียบัข่้าวกลื้าข่องชาวนาเสียหาย ข่ณะที�พูวกนักบัวช เช่น เติียง ติั�ง เส้�อสาด ผ้าจำานำาพูรรษา อาหารหวานคาว
ในศาสนาอ้�นแลืะฝูงนกยังหยุดพูักผ่อน ไม่ท่องเที�ยวไป ยารักษาโรค แลืะธูปเทียนจำานำาพูรรษา เพู้�อบัูชา
ในฤดูฝน เหติุการณ์นี�ทราบัถ่งพูระพูุทธเจ้าในกาลืติ่อมา พูระรัตินติรัย ในพูระอารามหลืวงทั�วราชอาณาจักร แม้ชาว
พูระองค์จ่งทรงรับัสั�งให้พูระสงฆ์ประชุมพูร้อมกัน เม้องสุโข่ทัยก็บัำาเพู็ญกุศลืเช่นนี�ในวัดประจำาติระกูลืข่องติน
ติรัสถามจนได้ความเป็นจริงแลื้ว จ่งทรงบััญญัติิเร้�อง
การเข่้าพูรรษาไว้ว่า “อนุชานามิ ภิกข่ะเว วัสสัง อุ ปะคันติุง” ประเพณีถวายผู้้าอาบนื่ำ�าฝ่นื่
แปลืว่า “ภิกษุทั�งหลืาย เราอนุญาติให้พูวกเธออยู่จำาพูรรษา” การถวายผ้าอาบันำ�าฝนนี�เป็นส่วนหน่�งข่องการ
วันเข่้าพูรรษานี�โดยทั�วไปกำาหนดในวันแรม 1 คำ�า เข่้าพูรรษา เกิดข่่�นแติ่สมัยพูุทธกาลื ค้อ มหาอุบัาสิกา
เด้อน 8 เรียกว่า วันเข่้าพูรรษาแรก (ปุริมพูรรษา) ถ้าปี ช้�อว่า วิสาข่า ได้ทูลืข่อพูระบัรมพูุทธานุญาติให้พูระสงฆ์
ใดเป็นปีอธิกมาส มีเด้อน 8 สองหน ก็เลื้�อนไปเข่้าพูรรษา ได้มีผ้าอาบันำ�าสำาหรับัผลืัดเปลืี�ยนเวลืาสรงนำ�าฝนระหว่าง
ในวันแรม 1 คำ�า เด้อน 8 หลืัง ในกรณีที�มีเหติุจำาเป็นไม่ ฤดูฝน นางวิสาข่าจ่งเป็นสติรีคนแรกที�ได้ถวายผ้าอาบันำ�าฝน
สามารถเข่้าพูรรษาได้ ก็เลื้�อนเข่้าพูรรษาใน แรม 1 คำ�า เด้อน 9 แด่พูระสงฆ์
ไปสิ�นสุดวันข่่�น 15 คำ�า เด้อน 12 เรียกว่า วันเข่้าพูรรษา ด้วยเหติุนี� เม้�อถ่งวันเข่้าพูรรษา พูุทธศาสนิกชน
หลืัง (ปัจฉิมพูรรษา) ติั�งแติ่สมัยกรุงสุโข่ทัยเป็นราชธานี จ่งนิยมนำาผ้าอาบันำ�าฝน
ไปถวายพูระสงฆ์ผู้จะอยู่จำาพูรรษา พูร้อมกับัอาหารแลืะ
การถ่อปฏิิบัต่ิวันื่เข้้าพรรษาในื่ประเทศีไทย เคร้�องใช้ที�จำาเป็นติ่าง ๆ
พู้�นฐานประชาชนไทยส่วนใหญ่มีอาชีพูเกษติรกรรม แม้ในปัจจุบััน พูุทธศาสนิกชนไทยก็ยังคงปฏ์ิบััติิ
จะเริ�มทำาไร่ทำานาปักดำาข่้าวกลื้าก่อนพูรรษากาลืเม้�อ กิจกรรมอย่างนี�อยู่ บัางวัดมีการแจกฎีกานัดเวลืาประกอบั
พูระสงฆ์เข่้าพูรรษา ก็จะเสร็จงานในไร่นา ย่อมมีเวลืาว่าง พูิธีถวายผ้าอาบันำ�าฝน (วัสสิกสาฎก) แลืะเคร้�องใช้อ้�น ๆ
มาก ประกอบักับัการคมนาคมไปมาระหว่างสถานที�ติ่าง ๆ ณ ศาลืาบัำาเพู็ญกุศลืข่องวัดใกลื้บั้านติน
ก็ไม่ค่อยสะดวก เน้�องจากฝนติกชุกแลืะนำ�าข่่�นเจิ�งนองเติ็ม
แม่นำ�าลืำาคลืองทั�วไป ชาวบั้านจ่งถ้อโอกาสเข่้าวัด ถวายทาน ประเพณีแหั�เทียนื่พรรษา
รักษาศีลืฟัังธรรม แลืะเจริญภาวนาเพูิ�มพููนบัุญกุศลืกัน ประเพูณีนี�คงเกิดข่่�นจากความจำาเป็นเม้�อสมัย
มากข่่�น ดังนั�น เม้�อถ่งวันเข่้าพูรรษา พูุทธศาสนิกชนพูา ก่อนยังไม่มีไฟัฟั้าใช้ พูระสงฆ์จำาพูรรษาติ้องปฏ์ิบััติิกิจวัติร
กันหาอาหารทั�งคาวหวาน ผลืไม้ แลืะเคร้�องอุปโภคที�จำาเป็น เช่น การทำาวัติรสวดมนติ์เช้าม้ดแลืะติอนพูลืบัคำ�า รวมถ่ง
แก่สมณะ นำาไปถวายพูระภิกษุสงฆ์ในวัดใกลื้บั้านติน พูระ การศ่กษาพูระปริยัติิธรรม กิจกรรมเหลื่านี�ลื้วนติ้องการ
ภิกษุสงฆ์จะแนะนำาสั�งสอนให้เกิดศรัทธาในการปฏ์ิบััติิ ติาม แสงสว่างโดยเฉพูาะแสงสว่างจากเทียนที�พูระสงฆ์จุดบัูชา
4 ข่่าวเนติิบััณฑิิติยสภา