Page 46 - อัยการนิเทศ (หนังสือราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด) เล่มที่ 86 พ.ศ. 2564
P. 46

โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์ โดยอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูงภาค ๗ ซึ่งอัยการสูงสุด
          มอบหมาย รับรองให้โจทก์อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง

                ศาลอุทธรณ์ภาค ๗ พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาในปัญหา
          ที่ยังมิได้วินิจฉัยแล้วมีคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
                จำเลยฎีกา
                ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังยุติว่า โจทก์ร่วมเป็น
          เจ้าของรถแทรกเตอร์ตีนตะขาบ ยี่ห้อแคเตอร์พิลลาร์ ๑ คัน ซึ่งจอดไว้ที่ร้านของนาย จ. ที่ตำบลท่าล้อ
          อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ก่อนเกิดเหตุโจทก์ร่วมมอบหมายให้จำเลยขายรถแทรกเตอร์

          ตีนตะขาบดังกล่าว ต่อมาประมาณเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๗ นาย ป. บุตรเขยของนาย จ. อาศัยอยู่
          บ้านเลขที่ ๕๗/๓ หมู่ที่ ๒ ตำบลท่าล้อ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ตกลงซื้อรถแทรกเตอร์
          ตีนตะขาบตามที่จำเลยลงประกาศในเว็บไซต์ในราคา ๖๘๐,๐๐๐ บาท โดยนาย ป. โอนเงินจาก
          บัญชีธนาคาร ก. สาขาตลาดไท อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เลขที่บัญชี ๔๘๔-๒-๑๑๘๒๓-๔
          จำนวน ๓๐,๐๐๐ บาท เข้าบัญชีของจำเลยเป็นค่ามัดจำ ส่วนที่เหลือชำระในวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๗

          โดยโอนเงิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท ผ่านระบบธนาคารออนไลน์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ และจำนวน
          ๑๕๐,๐๐๐ บาท ผ่านตู้เบิกถอนเงินอัตโนมัติเข้าบัญชีธนาคาร ก. เลขที่ ๐๕๔-๒-๗๔๔๘๕-๕
          ของจำเลย ตามสำเนารายการเคลื่อนไหวทางบัญชีเอกสารหมาย จ.๔ ขณะโอนเงินให้แก่จำเลย
          ทั้ง ๓ ครั้ง นาย ป. อยู่ที่ตำบลท่าล้อ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี หลังจากนั้นในวันเดียวกัน
          จำเลยโอนเงินจากบัญชีของจำเลยจำนวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท ผ่านระบบธนาคารออนไลน์บน
          โทรศัพท์เคลื่อนที่ และ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ผ่านตู้เบิกถอนเงินอัตโนมัติซึ่งตั้งอยู่ในเขตดอนเมือง

          กรุงเทพมหานคร รวมเป็นเงิน ๖๐๐,๐๐๐ บาท ให้แก่โจทก์ร่วมด้วยการโอนเข้าบัญชีของนาย ช.
          เป็นบัญชีธนาคาร ก. จำกัด (มหาชน) สาขาเซ็นทรัลพลาซาแกรนด์ พระราม ๙ กรุงเทพมหานคร
          ตามสำเนารายการเคลื่อนไหวทางบัญชี เอกสารหมาย จ.๓ และแจ้งแก่โจทก์ร่วมว่าขายรถได้ใน
          ราคา  ๖๐๐,๐๐๐  บาท  ต่อมาเดือนพฤษภาคม  ๒๕๕๘  โจทก์ร่วมทราบจากนาย  ป.  ผู้ซื้อ
          รถแทรกเตอร์ตีนตะขาบดังกล่าวจากจำเลยในราคา ๖๘๐,๐๐๐ บาท โจทก์ร่วมจึงไปแจ้งความร้องทุกข์

          ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยในข้อหา
          ยักยอกเงิน ๘๐,๐๐๐ บาท ที่ได้มาจากการขายรถแทรกเตอร์ตีนตะขาบของโจทก์ร่วม จำเลยให้การปฏิเสธ
          และนำสืบต่อสู้ว่า โจทก์ร่วมมอบหมายให้จำเลยขายรถแทรกเตอร์ตีนตะขาบให้โดยตั้งราคาขายไว้
          ๖๐๐,๐๐๐ บาท เงินส่วนต่าง ๘๐,๐๐๐ บาท เป็นเงินส่วนเกินที่จำเลยมีสิทธิได้รับตามข้อตกลง
          
     คดีมีปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ ปัญหานี้
          ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่าอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี มิใช่ท้องที่ที่ความผิดเกิด

          พนักงานสอบสวนอำเภอท่าม่วงทำการสอบสวนจำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
          ส่วนศาลอุทธรณ์ภาค ๗ วินิจฉัยว่า พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรท่าม่วงสอบสวนคดีนี้
          โดยมีเหตุอันควรเชื่อว่ามูลคดีความผิดฐานยักยอกได้เกิดภายในเขตอำนาจของตน จึงมีอำนาจ
          สอบสวนและโจทก์มีอำนาจฟ้อง เห็นว่า โจทก์และโจทก์ร่วมนำสืบในทำนองว่า โจทก์ร่วม

          มอบหมายให้จำเลยขายรถแทรกเตอร์ตีนตะขาบของโจทก์ร่วมมากกว่า ๖๘๐,๐๐๐  บาท



              36    คำพิพากษาศาลฎีกา
   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51