Page 51 - อัยการนิเทศ (หนังสือราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด) เล่มที่ 86 พ.ศ. 2564
P. 51

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๓๓๕/๒๕๖๓

                ป.อ. ฉ้อโกง (มาตรา ๓๔๑)


                ป.วิ.อ. ผู้เสียหาย (มาตรา ๒ (๔))

                


  เมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าจำเลยมีหน้าที่ในการคัดเลือกหรือบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ

                ในองค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาลในเขตจังหวัดบุรีรัมย์ อีกทั้งข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
                ก็ไม่อาจรับฟังได้ว่าโจทก์ร่วมมีเจตนาตั้งแต่แรกที่จะไปติดต่อจำเลยเพื่อขอให้ช่วยฝากเข้า
                ทำงานรับราชการ ดังนั้น การที่โจทก์ร่วมมอบเงินจำนวน ๕๕๐,๐๐๐ บาท ล้วนเกิดขึ้นเพราะ
                ถูกจำเลยหลอกลวง ถือไม่ได้ว่าโจทก์ร่วมเป็นผู้ก่อให้จำเลยกระทำความผิด โจทก์ร่วมเป็น
                ผู้เสียหายโดยนิตินัยมีสิทธิร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยในความผิดฐานฉ้อโกงได้
                                       ______________________________

                
             พนักงานอัยการจังหวัดบุรีรัมย์                  โจทก์

                
          {
                ระหว่าง       นางสาว ศ.                                      โจทก์ร่วม

                              นาง ร.                                         จำเลย

                
    โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างต้นเดือนสิงหาคม ๒๕๕๖ เวลากลางวัน ถึงวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๙
                เวลากลางวัน ต่อเนื่องกันตลอดมา จำเลยกับนาง จ. ซึ่งผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ไปแล้ว ร่วมกัน

                หลอกลวงนางสาว ศ. ผู้เสียหาย ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดข้อความจริง
                ซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ผู้เสียหาย โดยจำเลยกับพวกกล่าวอ้างว่าสามารถช่วยเหลือฝากผู้เสียหาย
                เข้าทำงานรับราชการในองค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาลในเขตจังหวัดบุรีรัมย์ได้ หากจะเข้า
                รับราชการในระดับ ซี ๑ ผู้เสียหายต้องเสียค่าดำเนินการให้แก่จำเลย ๕๐๐,๐๐๐ บาท หากจะเข้า
                รับราชการในระดับ ซี ๒ ผู้เสียหายต้องเสียค่าดำเนินการให้แก่จำเลยกับพวก ๖๕๐,๐๐๐ บาท

                โดยผู้เสียหายจะต้องเข้าสอบตามปกติอันเป็นความเท็จ ความจริงแล้วจำเลยกับพวกไม่สามารถ
                ช่วยเหลือฝากผู้เสียหายเข้าทำงานรับราชการในองค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาลในเขต
                จังหวัดบุรีรัมย์ตามที่กล่าวอ้างได้ โดยการหลอกลวงของจำเลยกับพวกเป็นเหตุให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ
                ว่าเป็นความจริงจึงมอบเงิน ๕๕๐,๐๐๐ บาท ให้จำเลยไปดำเนินการตามที่จำเลยกับพวกกล่าวอ้าง
                ทำให้จำเลยกับพวกได้ไปซึ่งทรัพย์สินเป็นเงิน ๕๕๐,๐๐๐ บาท จากผู้เสียหาย ผู้เสียหายได้รับเงินคืน
                จากจำเลยกับพวกบางส่วนจำนวน ๒๙๐,๐๐๐ บาท แล้ว ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา

                มาตรา ๘๓, ๓๔๑ ให้จำเลยคืนเงิน ๒๖๐,๐๐๐ บาท ที่ยังไม่ได้คืนแก่ผู้เสียหาย
                     จำเลยให้การปฏิเสธ แต่ก่อนสืบพยาน จำเลยขอถอนคำให้การเดิมและให้การใหม่เป็น
                รับสารภาพ
                     ระหว่างพิจารณา นางสาว ศ. ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
                และก่อนมีคำพิพากษาโจทก์ร่วมกับจำเลยตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ฉบับลงวันที่




                                                             อัยการนิเทศ เล่มที่ ๘๖ พ.ศ. ๒๕๖๔  41
   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56