Page 320 - เอกสารคำสอนทวารวดี - ศรีวิชัย
P. 320

เฉกเช่นเดียวกับที่มีอยู่ในมัชฌิมประเทศ (อินเดีย) หลักธรรมวินัยและพิธีกรรมก็มิได้
                              แตกต่างกัน หากพระภิกษุจีนปรารถนาจะไปยังตะวันตกเพื่อสดับและอ่านพระธรรมที่
                              เป็นต้นเค้าแห่งพระพุทธศาสนา เขาก็สมควรอยู่ที่นี่ 1 หรือ 2 เดือน เพื่อฝึกฝนและให้
                              แม่นย าในพระธรรมวินัยอย่างพอสมควรเสียก่อน จึงจะค่อยไปสู่อินเดีย....
                                     .... แรกทีเดียวข้าพเจ้าไปยังประเทศตะวันตก (อินเดีย) ด้วยความหวังว่าจะ
                              ไปซึมซับและเผยแผ่พระพุทธศาสนา เมื่อข้าพเจ้ากลับจากที่นั่นได้อยู่ที่เกาะในทะเล

                              ใต้แห่งนั้น คัมภีร์บางอย่างยังคงต้องการให้มีการแปล แม้ว่าสิ่งที่ข้าพเจ้าได้น ามาจาก
                              อินเดียทิ้งไว้ที่โฝชี่มีจ านวนมากถึง 500,000 โศลกนั้นเป็นพระไตรปิฎกและมีความ
                              จ าเป็นภายใต้สภาพการณ์เช่นนี้ที่ท าให้ข้าพเจ้าควรต้องไปที่นั่นซ ้าอีกครั้ง...
                                                                                        5
                                     .... พระสงฆ์ในประเทศเกาะทะเลใต้จะพาดผ้ายาว 3 – 5 ฟุต โดยพับทบไว้
                              เหมือนผ้าเช็ดหน้า จะใช้เมื่อรองนั่งคุกเข่าเวลาจะกราบไหว้หรือสวดมนต์จะพาดผ้า

                              (สังฆาฏิ) ไว้บนไหล่เสมอ เวลาเดินไปไหนๆ เมื่อเวลาพระสงฆ์จากอินเดียมาเห็นภาพ
                              อย่างนี้เข้า จะไม่ปฏิบัติเช่นนี้ แต่จะยิ้มเมื่อเห็นขนบธรรมเนียมการครองผ้าเช่นนี้...
                                     .... ในหมู่เกาะทะเลใต้ เช่นเดียวกับ 5 ภาคของอินเดีย ผู้คนจะไม่ใช้หมอน
                              ไม้หนุนศีรษะ (เวลานอน) ดังเช่นที่ปฏิบัติกันของพวกชาวจีน .... บางทีพระพุทธรูปจะ
                              ประดิษฐานไว้ในห้องที่พระสงฆ์อยู่ อาจอยู่ที่หน้าต่างหรือช่องซุ้มที่ท าขึ้นเฉพาะ
                              เมื่อพระสงฆ์นั่งลงฉัน ก็จะใช้ม่านผ้าลินินชักลงมาบังพระพุทธรูปไว้ พระสงฆ์จะ

                              สรงน ้าพระพุทธรูปทุกเช้า และจะถวายธูปและดอกไม้เป็นประจ า ในทุกบ่ายของทุกๆ
                              วันจะจัดส ารับเล็กๆ แบบเดียวกับที่พระสงฆ์ฉันมาตั้งไว้ถวายหน้าพระพุทธรูป
                              มีกล่องใส่พระธรรมคัมภีร์วางอยู่ข้างๆ แต่เวลาพระสงฆ์จะนอน ก็จะไปนอนอีก
                                       6
                              ห้องหนึ่ง..."

                              ในการส ารวจและขุดค้นทางโบราณคดีในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะสุมาตรา

                       (ภาพที่ 283) ตลอดช่วงเกือบ 30 ปีที่ผ่านมานี้ได้ช่วยยืนยันความส าคัญของบริเวณเมืองปาเล็ม
                       บังบนฝั่งแม่น ้ามูสิ (Musi) ซึ่งน่าจะเป็นศูนย์กลางส าคัญของศรีวิชัย อย่างน้อยก็ในช่วงพุทธ

                       ศตวรรษที่ 13 – 16 เพราะไม่เพียงแต่ได้พบจารึกหลายหลักในแถบนี้ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกิจกรรม
                                                                                                         7
                       ของพระราชา (หรือมหาราช) และการเจริญขึ้นของพุทธศาสนาในช่วง พ.ศ. 1225 - 1229
                       แต่ยังได้พบร่องรอยของศาสนสถานอันเก่าแก่และชิ้นส่วนพระพุทธรูปหลายองค์และ
                       พระโพธิสัตว์ที่มีรูปแบบคล้ายกับศิลปะอินเดีย ก าหนดอายุราวพุทธศตวรรษที่ 12 – 13 (ภาพที่

                       284) ทั้งที่เมืองปาเล็มบังซึ่งตั้งอยู่ ห่างจากปากแม่น ้ามูสิที่ไหลลงสู่ทะเลชวาทางตะวันออกเพียง
                       80 กิโลเมตร และได้พบที่ชุมชนตอนในแผ่นดินที่อยู่ทางตะวันตกบริเวณต้นแม่น ้ามูสิ ซึ่งเป็น

                                                                     8
                       แหล่งสินค้าของป่าหรือทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ ด้วย












                                                               314
   315   316   317   318   319   320   321   322   323   324   325