Page 324 - เอกสารคำสอนทวารวดี - ศรีวิชัย
P. 324

จารึกส าคัญ 3 หลักข้างต้นจากเกาะสุมาตราและบริเวณใกล้เคียงเป็นจารึกที่มีศักราช
                       และเอ่ยถึงกษัตริย์แห่งศรีวิชัยอย่างชัดเจน ล้วนแสดงให้เห็นถึงนโยบายของราชส านักศรีวิชัยใน

                       การขยายอ านาจปราบปรามดินแดนอื่นๆ รวมทั้งแนวคิดในการท าบุญของพระราชาที่เกี่ยวข้อง

                       กับคติของพุทธศาสนานิกายมหายาน และนี่ก็คือสภาพการณ์ในระยะเริ่มต้นของการก่อตั้ง
                       อาณาจักรศรีวิชัย


                       8.3  ความรุ่งเรืองทางพุทธศาสนาและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจของศรีวิชัย

                              ตลอดช่วงพุทธศตวรรษที่ 13 นั้นเองที่ศรีวิชัยเริ่มมีความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ
                       มากขึ้น โดยเอกสารจีนระบุว่า “โฟชิ” (Fo-shih) หรือ “ชิลิโฟชิ” (Shih-li-fo-shih) คือศรีวิชัยได้ส่ง

                       บรรณาการไปประเทศจีนหลายครั้ง ตั้งแต่ พ.ศ. 1213 – 1216, 1245, 1259, 1267, 1271 และ
                       1285  ตรงกับรัชกาลจักรพรรดิถังเกาจง, จักรพรรดินีอู่เจ๋อเทียน และจักรพรรดิถังเสวียนจง
                           12
                                                                                         13
                       อันเป็นช่วงที่เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศจีนเจริญรุ่งเรืองจนถึงขีดสุด
                              ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 14 นโยบายของราชส านักศรีวิชัยที่ปกครองโดยราชวงศ์

                       ไศเลนทร์จึงขยายพื้นที่ทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมทางพุทธศาสนาไปยังช่องแคบ
                       ซุนดาเพื่อต่อไปยังเกาะชวา และมีหลักฐานเลยไปไกลถึงประเทศฟิลิปปินส์ ช่องแคบมะละกา

                       รวมถึงภาคใต้ของประเทศไทยในปัจจุบัน เห็นได้จากบทบาทของราชวงศ์ไศเลนทร์บนเกาะชวา
                       ที่มีเรื่องราวปรากฏอยู่ในจารึกหลายหลัก  หรือการค้นพบจารึกภาษามลายูโบราณมีอายุราว
                                                           14
                       พุทธศตวรรษที่ 15 ที่ลากูน่า (Laguna) จังหวัดบูลากัน (Bulakan) ทางตอนเหนือของประเทศ
                       ฟิลิปปินส์  หรือการค้นพบประติมากรรมทางพุทธศาสนาแบบศิลปะศรีวิชัยหลายองค์ใน
                                15
                       ประเทศมาเลเซีย  และการปรากฏจารึกหลักที่ 23 (จารึกวัดเสมาเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช)
                                     16
                       ซึ่งระบุว่า เมื่อ พ.ศ. 1318 มหาราชแห่งศรีวิชัยโปรดให้สร้างพุทธสถานขึ้น 3 หลังถวายแด่

                       พระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์  (จะกล่าวถึงต่อไป) อันแสดงให้เห็นว่าพุทธศาสนาที่ศรีวิชัยใน
                                                 17
                       ขณะนั้นเป็นนิกายมหายาน

                              ดูเหมือนว่าพุทธศาสนานิกายมหายานหรือสกุลวัชรยานจะทวีความส าคัญอยู่ในแถบ
                       เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงประมาณพุทธศตวรรษที่ 13 – 15 ที่ภาคกลางของเกาะชวาก็มี

                       การก่อสร้างพุทธสถานในนิกายมหายานโดยราชวงศ์ไศเลนทร์หลายหลัง เช่น จันทิกะละสัน
                                                                          18
                       (สร้างในช่วงพุทธศตวรรษที่ 14 อาจเป็นในปี พ.ศ. 1321) , จันทิบุโรพุทโธ (เริ่มสร้างในช่วง
                                                                                                        20
                                                19
                       ครึ่งแรกพุทธศตวรรษที่ 14)  และจันทิเซวู (สร้างในช่วงครึ่งหลังของพุทธศตวรรษที่ 14)
                       จันทิทั้งสองหลังนี้เป็นดั่งมณฑลจักรวาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของนิกายมหายาน
                              โดยมีการค้นพบประติมากรรมส าริด (หรือทองค า) ท าเป็นรูปพระพุทธรูปและ
                       พระโพธิสัตว์มหายาน (ทั้งเพศชายและเพศหญิง) เป็นจ านวนมากในเกาะชวาภาคกลาง  ส่วนที่
                                                                                                  21
                       เมืองปาเล็มบังบนเกาะสุมาตราก็มีการค้นพบประติมากรรมส าริด 3 องค์ (รูปพระพุทธเจ้า,




                                                               318
   319   320   321   322   323   324   325   326   327   328   329