Page 11 - วิศวกรรมสาร ปีที่ 76 ฉบับที่ 3 กรกฎาคม - กันยายน 2566
P. 11
ปฏิรูปการจัดการน�้าทั้งระบบ
(ซึ่งเคยปฏิบัติงานกับบริษัทเอเคอร์ที่กรมชลประทานเป็นเวลา 5 ปี)
รวมเวลาประมาณ 8 เดือน โครงการชลประทานน�้าอูนประกอบด้วย
อ่างเก็บน�้าอยู่ทางเหนือน�้าและส่งน�้าให้พื้นที่เพาะปลูกจากที่สูงลงสู่
ที่ต�่า (Gravity) ทางท้ายน�้ามากกว่า 200,000 ไร่ งานที่ผู้เขียน
ไปปฏิบัติคือ การจัดสรรน�้าล่วงหน้ารายสัปดาห์อย่างเป็นระบบ
ด้วยแบบจ�าลอง และได้เก็บข้อมูลจากแปลงทดลอง 2 แปลง
พื้นที่เพาะปลูกประมาณ 300 ไร่ และ 50,000 ไร่ ตามล�าดับ
ในเขตโครงการเพื่อน�ามาสอบเทียบแบบจ�าลอง ปรากฏว่างาน
ส�าเร็จไปได้ด้วยดี เพราะทางโครงการให้ความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่ง
และเมื่อสิ้นสุดการปฏิบัติงานทางโครงการก็สามารถด�าเนินงาน
ต่อไปได้ด้วยตนเอง
2) การเก็บข้อมูลจากแปลงทดลองในเขตโครงการชลประทาน
ล�าปาว จ.กาฬสินธุ์ จ�านวน 3 แปลงทดลอง เพื่อน�ามาใช้สอบเทียบ
แบบจ�าลองเป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจาก
อียู โดยมีวิศวกรชาวเนเธอแลนด์เป็นหัวหน้าโครงการ และผู้เขียน
ได้ศึกษาเพื่อค�านวณหากราฟส�าหรับใช้ในการก�าหนดพื้นที่เพาะ
ปลูกฤดูแล้ง (Dry season area reduction curve-DSAR Curve) ผู้เขียนหน้า 192
ของอ่างเก็บน�้าห้วยผึ้ง-ห้วยฝาย เป็นอ่างเก็บน�้าขนาดกลาง และ 4) ผู้เขียนเกษียณอายุราชการในปี พ.ศ. 2540 และในปี
มีพื้นที่เพาะปลูกอยู่ทางท้ายน�้าและพื้นที่เพาะปลูกผืนนี้สามารถ พ.ศ. 2544 กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงานได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา
รับน�้าจากที่สูงลงสู่ที่ต�่า (Gravity) ได้ทั้งสองอ่าง และผู้เขียนได้น�า ในโครงการ “การเพิ่มประสิทธิภาพแหล่งน�้าและการใช้น�้าอย่างมี
ผลการศึกษาไปเขียนบทความเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อส่งไปลงพิมพ์ ประสิทธิภาพด้วยระบบท่อส่งน�้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่
ในการสัมนาที่ต่างประเทศอีกด้วย รับประโยชน์ 1,500,000 ไร่” ซึ่งประกอบด้วย 5 บริษัทใหญ่ และ
3) ในปี พ.ศ. 2539 ผู้เขียนได้เดินทางไปเพิ่มประสิทธิภาพ 6 บริษัทเล็กโดยมีผู้เขียนเป็นผู้จัดการโครงการและทางกรมฯ ได้
การจัดการน�้าของอ่างเก็บน�้าหนองหาน-กุมภวาปี อ.กุมภวาปี ว่าจ้างภาควิชาวิศวกรรมแหล่งน�้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ
จ.อุดรธานี (โดยเดินทางไปปฏิบัติงานในวันหยุดเสาร์และอาทิตย์) มาก�ากับและตรวจสอบผลการศึกษา อนึ่งทางภาควิชาวิศวกรรม
เป็นการส่งน�้าจากอ่างเก็บน�้าให้พื้นที่เพาะปลูกโดยการสูบ พื้นที่ แหล่งน�้าจุฬาฯ ได้ว่าจ้างอดีตรองอธิบดีกรมพัฒนาและส่งเสริม
เพาะปลูกสถานีสูบน�้าละ 2,000-3,000 ไร่ รวม 11 สถานี ส่วนระบบ พลังงาน ซึ่งเกษียณอายุราชการแล้วมาร่วมงานด้วย ซึ่งผู้เขียน
ส่งน�้ามีเฉพาะคลองส่งน�้าสายใหญ่และคลองซอยและยังไม่มี ต้องไปปฏิบัติงานที่กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงานเป็นเวลา
คูส่งน�้า จึงไม่สามารถเก็บข้อมูลจากแปลงทดลองในสนาม 23 เดือน ซึ่งท่านอดีตรองอธิบดีกรมพัฒนาฯ ก็ได้นั่งปฏิบัติงานอยู่
มาสอบเทียบแบบจ�าลองได้ ผู้เขียนจึงใช้ข้อมูลจากแปลงทดลอง ใกล้กับผู้เขียนอีกด้วย อนึ่งบริษัทฯ ที่ผู้เขียนสังกัดได้รับผิดชอบ
ของโครงการชลประทานน�้าอูน จ.สกลนคร และโครงการ ลุ่มน�้าชี ผู้เขียนจึงได้ศึกษาการใช้น�้าในลุ่มน�้าชีอย่างเป็นระบบ
ชลประทานล�าปาว จ.กาฬสินธุ์ มาสอบเทียบแบบจ�าลองเป็นงาน ด้วยแบบจ�าลอง โดยแบ่งลุ่มน�้าชีออกเป็น 80 ลุ่มน�้าย่อยตามที่
ของกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน (ปัจจุบัน ก.ค. 2563 กรมฯ นี้ คณะอนุกรรมการอุทกวิทยาแห่งชาติได้แบ่งไว้ และได้ศึกษาสมดุล
ได้ถูกยุบไปแล้ว) อนึ่งที่โครงการนี้ผู้เขียนสามารถศึกษาถึงวิธีการ น�้าแต่ละลุ่มน�้าย่อยด้วยแบบจ�าลองจากต้นน�้าจนถึงปลายแม่น�้า
ค�านวณหาค่าชลภาระส�าหรับน�ามาค�านวณหาค่าความจุของคูส่งน�้า อนึ่งผู้เขียนได้ใช้ผู้ที่ส�าเร็จการศึกษาขั้นปริญญาโทจากภาควิชา
ที่เหมาะส�าหรับการเพาะปลูกข้าวฤดูฝนในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วิศวกรรมทรัพยากรน�้า มก. ซึ่งได้ใช้แบบจ�าลองศึกษาการจัดการ
ตอนบนได้ ซึ่งมีรายละเอียดอยู่ในหนังสือชลศาสตร์ประยุกต์ของ น�้าจากอ่างเก็บน�้าเพื่อศึกษาเป็นวิทยานิพนธ์ขึ้นปริญญาโทกับ
วิศวกรรมสาร 11
ปีที่ 76 ฉบับที่ 3 กรกฎาคม - กันยายน 2566