Page 109 - ทวารวดี ประตูสู่การค้าบนเส้นทางสายไหมทางทะเล
P. 109
10 แห่ง และหนึ่งในนั้นคือ “จินหลิน” (Chin-lin) หรือ “ดินแดนทอง” ซึ่งเป็น
158
เป้าหมายสุดท้าย เอกสารจีนกล่าวว่าจินหลินตั้งอยู่ที่อ่าวใหญ่ ห่างจาก
ฟูนันมาจากตะวันตกประมาณ 2,000 ลี้ เป็นแหล่งแร่เงิน และประชาชนนิยม
159
คล้องช้างป่าเพื่อเอางา ซึ่งพอล วิทลีย์ (Paul Wheatley) เคยเสนอว่า
จินหลินอยู่ที่ใดที่หนึ่งบริเวณอ่าวไทยตอนบน แต่แร่เงินนั้นคงน ามาจากรัฐ
160
ฉานของเมียนมาร์
ลอร์เรนซ์ พาลเมอร์ บริกส์ (Lawrence Palmer Briggs) และ
ยอร์ช เซเดส์ (George Cœdès) มีความเห็นว่าจินหลินอาจตรงกับดินแดน
สุวรรณภูมิ (ดินแดนแห่งทอง) ซึ่งอยู่ในบริเวณตอนล่างของประเทศพม่าหรือ
161
คาบสมุทรมลายู จนกระทั่ง ใน พ.ศ. 2511 ควอริชต์ เวลซ์ (Quaritch
Wales) จึงเสนอข้อสันนิษฐานว่าเมืองอู่ทองคือจินหลิน เพราะที่เมืองนี้มี
162
เพนียดคล้องช้าง (คือแหล่งโบราณคดีคอกช้างดิน ซึ่งปัจจุบันทราบแล้วว่า
คืออ่างเก็บน ้า – ผู้เขียน) และจากการขุดค้นที่อู่ทองของเขาเมื่อ พ.ศ. 2479
ได้พบ เศษภาชนะลายเขียนสีแดงเป็นรูปคลื่น 3 เส้นในชั้นดินตอนล่าง
163
ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับอาณาจักรฟูนัน
ต่อมาในช่วง พ.ศ. 2512–2513 ได้มีการขุดค้นที่บ้านท่าม่วง
บริเวณเมืองอู่ทองโดยคณะนักโบราณคดีชาวอังกฤษ พบโบราณวัตถุที่มี
ลักษณะคล้ายกับโบราณวัตถุจากเมืองออกแก้วของฟูนัน เช่น วัตถุดินเผา
164
ทรงกลมมีลวดลาย ห่วงโลหะ และพวยกา เฮลมุต ลูฟส์ (H. E. Loofs)
หนึ่งในคณะขุดค้นได้ก าหนดอายุจากลักษณะของชั้นทับถมทางโบราณคดีว่า
อาจมีการอยู่อาศัยมาตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 8 และมีการอยู่อาศัยสืบเนื่อง
165
มาในสมัยทวารวดี แต่ลูฟส์มีความเห็นว่าเมืองอู่ทองไม่น่าจะเป็นสถาน
ที่ตั้งของจินหลิน เพราะในช่วงพุทธศตวรรษที่ 8 ดินแดนแถบนี้ยังอยู่ในช่วง
166
ปลายยุคหินใหม่และช่วงต้นยุคเหล็กเท่านั้น (ภาพที่ 31)
98