Page 150 - ทวารวดี ประตูสู่การค้าบนเส้นทางสายไหมทางทะเล
P. 150
ชั้นสูงคนหนึ่งที่ท างานด้านนี้คือ เจียตัน (Jia Dan หรือ Chia Tan) ซึ่งบันทึก
ของเขาในช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 13 ชื่อ Hainei Huayitu (Map of China
and Neighboring Countries) (อ้างถึงอยู่ในหนังสือพงศาวดารราชวงศ์ถัง
ฉบับใหม่) ได้กล่าวถึงเส้นทางการเดินเรือค้าขายจากเมืองกว่างโจวไปยัง
ประเทศต่างๆ (The Maritime Passage from Guangzhou to Foreign
Countries) ซึ่งเรือต้องล่องผ่านและแวะพักตามเมืองท่าชายฝั่งประเทศ
เวียดนาม ก่อนแล่นตัดมายังช่องแคบมะละกา หลังจากนั้นจึงล่องเรือต่อมา
จนถึงเกาะนิโคบาร์ แล้วเดินทางมุ่งหน้าไปยังเกาะลังกา ผ่านชายฝั่ง
มะละบาร์ (Malabar coast) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย ผ่านดินแดน
แถบปากแม่น ้าสินธุประเทศปากีสถาน เข้าสู่น่านน ้าในอ่าวเปอร์เซีย จนถึง
เมืองท่าอัล-อูบัลเลาะฮ์ (Al-Ubullah) ในประเทศอิรักปัจจุบัน จากนั้นจึง
ขนถ่ายสินค้าไปยังเรือล าเล็กเพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองบัสเราะฮ์ (Basra)
และส่งต่อไปยังมหานครแบกแดด รวมเวลาเดินทาง (ไม่รวมแวะพัก) ราว
43
89 วัน
ส าหรับชุมชนของพ่อค้าต่างชาติโดยเฉพาะชาวเปอร์เซียและ
อาหรับนั้นต่างตั้งถิ่นฐานกระจายตัวตั้งแต่เมืองกว่างโจวไปทางทิศเหนือ
จนถึงเมืองเจียงซู ตรงจุดบรรจบระหว่างแม่น ้าแยงซีเกียงกับล าคลองใหญ่
44
ที่ขุดขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์สุย จนกระทั่งเมื่อ พ.ศ. 1233 ในรัชกาลองค์
จักรพรรดินีอู่เจ๋อเทียน (พระนางบูเช็กเทียน ครองราชย์ พ.ศ. 1233-1248)
จึงทรงย้ายเมืองหลวงจากนครฉางอันมายังนครลั่วหยาง ซึ่งตั้งอยู่ในแนว
คลองสายใหญ่ อันเป็นประโยชน์ต่อการติดต่อค้าขายระหว่างจีนภาคเหนือ
45
และดินแดนชายฝั่งทะเลทางตะวันออกเฉียงใต้ ที่นครลั่วหยางยังมี
ศูนย์การค้าใหญ่อยู่ทางทิศใต้ของเมือง (Southern Market) ซึ่งมีตลาดอยู่
ภายในนั้นมากกว่า 120 แห่ง และมีร้านค้าของเอกชนและคลังสินค้ามากกว่า
46
1,000 ร้าน
139