Page 152 - ทวารวดี ประตูสู่การค้าบนเส้นทางสายไหมทางทะเล
P. 152
และชิลิโฟชิหรือศรีวิชัย (4 ครั้ง พ.ศ. 1259, 1267, 1271, 1285) โดยมีข้อมูล
ว่าในช่วงศตวรรษก่อนหน้านี้มีคณะทูตจากประมาณ 20 ประเทศส่ง
บรรณาการไปยังราชส านักจีน แต่ในช่วงครึ่งหลังของพุทธศตวรรษที่ 13
56
มีบรรณาการจากคณะทูตมากถึง 70 ประเทศ
กวีสมัยราชวงศ์ถังได้พรรณนาไว้ว่า “มีแถวเรือสินค้าจากหมื่น
57
ประเทศต่างแย่งกันจะเป็นที่หนึ่ง เพื่อถวายทองค าและผ้าแพรไหม”
บางครั้งก็มีการเปรียบเปรยปริมาณของเรือสินค้าราวกับมวลเมฆที่ปกคลุม
58
ท้องฟ้า โดย “สินค้าต่างชาติจะมาถึงในแต่ละวัน ประกอบด้วย ไข่มุก
เครื่องเทศ งาช้าง นอแรด และกระดองเต่ากระ สินค้าหายากและมีค่า
59
ของโลกใบนี้ มีมากล้นเหลือในแผ่นดินจีนจนไม่มีวันใช้ได้หมด”
อันสะท้อนภาพความรุ่งโรจน์ของการค้าทางทะเลได้ในช่วงเวลานั้นได้เป็น
อย่างดี
แน่นอนว่าผ้าแพรไหมของจีนยังคงเป็นสินค้าส่งออกส าคัญและ
เป็นที่นิยมของตลาดในประเทศต่างๆ ภิกษุชาวชิลลา (เกาหลี) ชื่อ เฮียวโจ
(Hyecho) ได้บรรยายถึงพ่อค้าอาหรับไว้ว่า “ล่องเรือมาจากทะเลทาง
ตะวันตกเข้ามายังดินแดนทะเลใต้ โดยซื้อขายสินค้ามีค่านานาชนิดที่ศรีลังกา
จากนั้นพวกเขาจะน ามาแลกเปลี่ยนเป็นทองค าในดินแดนทะเลใต้ และ
60
เดินทางมายังแผ่นดินจีน ณ เมืองท่ากว่างโจว เพื่อหาซื้อผ้าไหมชนิดต่างๆ”
นอกจากผ้าไหมแล้ว ในช่วงกลางถึงปลายสมัยราชวงศ์ถัง
ราวพุทธศตวรรษที่ 14–15 จีนได้เริ่มส่งเครื่องถ้วยจากแหล่งเตาต่างๆ
61
เป็นสินค้าออกส าคัญไปยังนานาประเทศ โดยผลิตภัณฑ์จากแหล่งเตา
ฉางซา (Changsha kiln) ในมณฑลหูนาน (Hunan) ได้รับความนิยมมาก
62
ที่สุดในขณะนั้น จนมีค ากล่าวว่า “เส้นทางสายไหมทางทะเลเปรียบ
ประดุจเส้นทางการค้าเครื่องถ้วย” (maritime silk road as the
63
ceramics road) และบันทึกของนักภูมิศาสตร์ชาวอาหรับคนหนึ่งชื่อ อิบนุ
อัล-ฟากิช (Ibn Al-Fakish) ที่เขียนขึ้นใน พ.ศ. 1446 ก็ระบุว่า สินค้าส่งออก
141