Page 171 - ทวารวดี ประตูสู่การค้าบนเส้นทางสายไหมทางทะเล
P. 171
ส าหรับเมืองท่าสมัยโบราณแห่งหนึ่งในประเทศอินโดนีเซียที่
น่าจะเป็นสถานที่ที่เรือสินค้า (จากประเทศจีนในสมัยราชวงศ์ถังหรือจาก
ตะวันออกกลางในสมัยอับบาสิยะฮ์) แวะไปจอดคือ เมืองปาเล็มบัง
(Palembang) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะสุมาตรา รวมทั้งเมืองกาลาฮ์
ทางตะวันตกของคาบสมุทรมลายูที่ชาวอาหรับบันทึกเอาไว้ด้วย ทั้งสองแห่ง
นี้มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในช่วงพุทธศตวรรษที่ 14–15 ภายใต้การ
ควบคุมดูแลของ “มหาราชแห่งราชวงศ์ไศเลนทร์” ที่เรารู้จักชื่อบ้านเมืองของ
พระองค์ในนาม “ศรีวิชัย”
"ศรีวิชัย" พ่อค้าคนกลางในเกาะสุมาตราและคาบสมุทรมลายู
ดูเหมือนว่าในช่วงก่อนหน้าพุทธศตวรรษที่ 13 รัฐเล็กรัฐน้อยใน
เขตเกาะสุมาตราและเกาะชวาของประเทศอินโดนีเซียมีบทบาทไม่มากนัก
หากเทียบกับกลุ่มรัฐในเขตคาบสมุทรมลายูและอาณาจักรฟูนัน โอลิเวอร์
วิลเลียม โวลเตอร์ส (O.W.Wolters) สันนิษฐานว่า รัฐในหมู่เกาะของ
อินโดนีเซียที่น่าจะมีบทบาทด้านการค้าทางทะเลมากที่สุดเห็นได้จะแก่
“คันโทลี” (Kan-to-li) เพราะส่งบรรณาการไปประเทศจีน 5 ครั้ง ใน พ.ศ.
129
998, 1045, 1061, 1063, 1106
พงศาวดารสมัยราชวงศ์เหลียงบรรยายไว้ว่า เมื่อ พ.ศ. 1045
(สมัยจักรพรรดิเหลียงอู่ตี้) พระราชาของคันโทลีทรงสุบินว่ามีภิกษุรูปหนึ่งได้
แนะน าพระองค์ว่า “ถ้าหากส่งบรรณาการไปยังประเทศจีนด้วยความ
นอบน้อม ดินแดนของพระองค์จะร ่ารวยและสงบสุข พ่อค้าและนักเดินทางจะ
130
มีมากขึ้นหลายร้อยเท่า” โดยโวลเตอร์สเสนอว่ามีความเป็นไปได้อย่าง
131
มากที่รัฐคันโทลีคือต้นก าเนิดของ “ศรีวิชัย”
เรื่องราวของศรีวิชัยนั้นมีปรากฏอยู่ในเอกสารของหลายประเทศ
ทั้งจีน อาหรับ อินเดีย และเอกสารพื้นเมืองเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (รวมทั้ง
จารึก) เอกสารฝ่ายจีนให้ข้อมูลว่า เมื่อ พ.ศ. 1214 ในสมัยของจักรพรรดิ
160