Page 307 - พินิจด้วยรัก พิทักษ์ด้วยใจ : พัฒนาสุขภาวะเด็กไทย ด้วยการวิจัยเชิงปฏิบัติการ
P. 307
พฤติกรรมดังกล่�วนั้นจะทำ�ให้ตนเองได้รับผลลัพธ์ต�มที่ค�ดหวังอย่�งแน่นอน
ย่อมทำ�ให้บุคคลมีแนวโน้มที่จะปฏิบัติพฤติกรรมดังกล่�วสูงต�มม� (Bandura, 1997)
การสร้างเสริมสมรรถนะแห่งตน
ก�รสร้�งเสริมก�รรับรู้สมรรถนะแห่งตน Bandura ได้กล่�วถึง 4 แหล่ง
ของก�รสร้�งเสริมก�รรับรู้สมรรถนะแห่งตนดังนี้ (Bandura, 1997)
1) ก�รมีประสบก�รณ์ที่ประสบคว�มสำ�เร็จด้วยตนเอง (Enactive Mastery
experience) เชื่อว่�เป็นวิธีก�รที่ส่งเสริมก�รรับรู้สมรรถนะแห่งตนได้ดีที่สุด
เนื่องจ�กบุคลได้เรียนรู้และรับรู้ถึงคว�มส�ม�รถของตนเองจ�กประสบก�รณ์
โดยตรง ซึ่งคว�มสำ�เร็จในก�รปฏิบัติพฤติกรรมที่ผ่�นม� ทำ�ให้บุคคลเกิดก�รรับรู้
และเกิดคว�มเชื่อมั่นว่�ห�กต้องกระทำ�พฤติกรรมดังกล่�วอีกครั้ง ตนเองจะ
ส�ม�รถทำ�ได้เหมือนในครั้งที่ผ่�นม�
2) ก�รเห็นประสบก�รณ์ของผู้อื่น (Vicarious experience) ก�รสังเกต
ประสบก�รณ์คว�มสำ�เร็จจ�กบุคคลอื่นหรือก�รใช้ตัวแบบ (Modeling) ซึ่งแบ่งออก
เป็น 2 ตัวแบบคือ 1.ตัวแบบที่มีชีวิต (Live model)เช่น เพื่อน คนในครอบครัว หรือ
บุคคลที่เย�วชนส�ม�รถสร้�งปฏิสัมพันธ์ได้ 2.ตัวแบบเชิงสัญญ�ลักษณ์ (Symbol
model) เช่นตัวแบบในสื่อต่�งๆเช่น วีดีโอ ภ�พ เสียง เป็นต้น
3) ก�รใช้คำ�พูดชักจูง (Verbal persuasion) ใช้ก�รกล่�วชักจูงให้บุคคล
เชื่อว่�ตนเองเป็นคนมีคว�มส�ม�รถ เพื่อให้เกิดคว�มเชื่อมั่นในก�รปฏิบัติพฤติกรรม
ต�มม� แต่ควรใช้ร่วมกับก�รส่งเสริมสรรถนะแห่งตนในแหล่งอื่นๆ เนื่องจ�กก�รใช้
คำ�พูดชักจูงเพียงอย่�งเดียวมีประสิทธิภ�พน้อย
4) สภ�วะท�งร่�งก�ยและท�งอ�รมณ์ (Physiological and effective
states) ก�รมีสภ�วะท�งด้�นร่�งก�ยและอ�มณ์ที่มีคว�มพร้อมในก�รรับรู้
สมรรถนะแห่งตน โดยก�รส่งเสริมให้บุคคลมีคว�มพร้อมของร่�งก�ยและจิตใจเช่น
คว�มพร้อมท�งร่�งก�ย ก�รลดคว�มตึงเครียด คว�มกังวลและมีคว�มผ่อนคล�ย
306 พินิจด้วยรัก พิทักษ์ด้วยใจ:พัฒนาสุขภาวะเด็กไทยด้วยการวิจัยเชิงปฏิบัติการ
Consider with Love, Protect with Heart: Health Development among Youth via Participation Action Research