Page 191 - อัยการนิเทศ (หนังสือราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด) เล่มที่ 86 พ.ศ. 2564
P. 191
หน่วยงานตุลาการของแต่ละประเทศสมาชิก จึงไม่มีความเกี่ยวข้องกับบทบาทของสำนักงานอัยการสูงสุด
ดังนั้น ท่าที (Position) ของสำนักงานอัยการสูงสุดต่อเวที CACJ นั้น จึงเห็นควรคงท่าทีเช่น
ที่เคยปฏิบัติไว้ คือไม่จำต้องส่งผู้แทนหรือผลักดันบทบาทของสำนักงานอัยการสูงสุดในเวทีดังกล่าว
แต่อย่างใด
(๓.๙) คณะกรรมาธิการระหว่างประเทศของรัฐบาลในประเทศอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
(ASEAN Intergovernmental Commission on Human Rights (AICHR))
จากการตรวจสอบฐานข้อมูลสำนวนที่ปรากฏของสำนักวิเทศสัมพันธ์ และศูนย์พันธกิจ
ประชาคมอาเซียน สำนักงานต่างประเทศ พบว่าปรากฏข้อมูลการส่งผู้แทนเข้าร่วมของสำนักงาน
อัยการสูงสุดไม่มากนัก โดยอาจมีความเป็นไปได้ว่าสำนักงานอัยการสูงสุดได้เคยส่งผู้แทนเข้าร่วม
จำนวนไม่มาก หรืออาจเป็นไปได้ว่าฐานข้อมูลสำนวนได้ถูกเก็บไว้ที่หน่วยงานภายในอื่นนอกเหนือ
จากสำนักงานต่างประเทศโดยมิได้มีการแจ้งให้สำนักงานต่างประเทศได้รับทราบ อย่างไรก็ดี
เมื่อพิจารณาบทบาทของเวทีการประชุมดังกล่าว คือการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน
ของอาเซียน นอกเหนือไปจากองค์กรอื่น ๆ ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนเฉพาะทางแล้ว
จะเห็นว่า แม้บทบาทหนึ่งของสำนักงานอัยการสูงสุดคือ การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและ
สิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งเป็นพันธกิจหลักของสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือ
ทางกฎหมายแก่ประชาชนก็ตาม แต่เนื่องจากที่ประชุม AICHR นั้น มิใช่บทบาทที่สำนักงานอัยการสูงสุด
เป็นผู้มีหน้าที่หลักในประเทศไทย ซึ่งได้มีหน่วยงานเฉพาะทางอยู่จำนวนมากอยู่แล้ว อาทิ สำนักงาน
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นต้น ทั้งยังได้มีการแต่งตั้งผู้แทนคณะกรรมาธิการระหว่าง
ประเทศของรัฐบาลในประเทศอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประเทศไทยเป็นผู้แทนที่รับผิดชอบ
หลักในประเด็นดังกล่าวในที่ประชุมนี้ของประเทศไทยโดยเฉพาะอยู่แล้ว ความสำคัญที่จะต้องผลักดัน
บทบาทของสำนักงานอัยการสูงสุดต่อที่ประชุมดังกล่าวจึงไม่มีมากนัก
ดังนั้น ท่าที (Position) ของสำนักงานอัยการสูงสุดต่อเวที AICHR นั้น จึงเห็นควรว่า
สำนักงานอัยการสูงสุดควรมีท่าทีที่เป็นกลางต่อที่ประชุมดังกล่าว กล่าวคือ หากมีกรณีที่ได้รับเชิญ
หรือมีความสำคัญที่เข้าไปร่วม ก็สามารถเข้าร่วมแสดงบทบาทในส่วนที่เกี่ยวข้องได้ตามวาระโอกาส
แต่ควรให้ความสำคัญในลำดับรองมาจากเวทีการประชุมอื่นที่สำคัญกว่า
ทั้งนี้ มีข้อสังเกตเช่นเดียวกับกรณีที่ประชุม AMMTC AMMD SOMTC และ ASOD ว่า หากกรณี
ปรากฏว่ามีการเก็บข้อมูลสำนวนการเข้าร่วมการประชุมในที่ประชุมทั้งสองไว้ในฐานข้อมูล
ของหน่วยงานภายในอื่น อาทิ สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย
แก่ประชาชน โดยไม่ปรากฏในฐานข้อมูลของสำนักงานต่างประเทศจริง ย่อมแสดงให้เห็นถึงปัญหา
ดังได้กล่าวถึงแล้วข้างต้น ดังนั้นระบบสารบบข้อมูลในการส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมระหว่าง
ประเทศและบันทึกสารัตถะจากการเข้าร่วมการประชุมระหว่างประเทศในองค์กรหรือเวทีระหว่าง
ประเทศต่าง ๆ ซึ่งย่อมมีความเกี่ยวข้องกับบทบาทหน้าที่ของสำนักงานต่างประเทศนั้น จึงควร
กำหนดให้มีการบูรณาการกับหน่วยงานภายในอื่น ๆ ของสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อการดำเนินการ
ที่เป็นเอกภาพและมีความต่อเนื่อง โดยขั้นต่ำที่สุด สำนักงานต่างประเทศควรได้รับทราบข้อมูลของ
การส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมในเวทีระหว่างประเทศของหน่วยงานภายในสำนักงานอัยการสูงสุด
และข้อมูลว่าจะสามารถติดตามสารัตถะการประชุมที่เกี่ยวข้องได้จากหน่วยงานภายในใดเมื่อจำเป็น
ต้องใช้ข้อมูลดังกล่าว
อัยการนิเทศ เล่มที่ ๘๖ พ.ศ. ๒๕๖๔ 181