Page 91 - อัยการนิเทศ (หนังสือราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด) เล่มที่ 86 พ.ศ. 2564
P. 91

โทษจำคุกในคดีนี้
                     จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้บวกโทษ

                     ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
                     โจทก์อุทธรณ์ โดยอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูงภาค ๔ ซึ่งได้รับมอบหมายจากอัยการ
                สูงสุดรับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
                     ศาลอุทธรณ์ภาค ๔ พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน
                พ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๔, ๑๒ (๑) จำคุก ๔ เดือน บวกโทษจำคุก ๒ เดือน ที่รอการลงโทษไว้ในคดี
                อาญาหมายเลขแดงที่ ๓๑๑๖/๒๕๕๘ ของศาลชั้นต้นเข้ากับโทษจำคุกในคดีนี้ เป็นจำคุก ๖ เดือน
                ริบของกลาง แต่ไม่ริบบัตรเบิกถอนเงินสด ๓ ใบและเงินสดของกลางโดยให้คืนแก่เจ้าของ ยกคำขอ
                ที่ให้จำเลยจ่ายเงินสินบนนำจับ
                     โจทก์และจำเลยฎีกา

                     ศาลฎีกาประชุมปรึกษาแล้ว เห็นว่า พยานโจทก์ทั้งสองปากซึ่งเป็นประจักษ์พยานเบิกความ
                ได้สอดคล้องต้องกันเป็นลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ได้รับแจ้งว่า จำเลยรับพนันสลากกินรวบจนกระทั่ง
                จับกุมจำเลยได้ โดยไม่มีข้อพิรุธสงสัยว่าจะแกล้งเบิกความปรักปรำจำเลย เชื่อว่าพยานโจทก์ทั้งสอง
                เบิกความไปตามความเป็นจริงดังที่พบเห็นมาและมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ  เหตุที่จับกุมจำเลย
                เนื่องมาจากได้รับแจ้งจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสกลนครว่าจำเลยมีพฤติการณ์กลับมารับพนัน
                สลากกินรวบอีกโดยจำเลยเคยถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาเจ้ามือรับกินรับใช้การพนันสลากกินรวบ
                มาก่อน จากการตรวจสอบโทรศัพท์เคลื่อนที่ของจำเลยก็พบข้อมูลรายการโพยสลากกินรวบและ

                ข้อความสนทนาการรับพนันสลากกินรวบ จำเลยไม่ได้คัดค้านข้อมูลที่คัดลอกมาจากห้องสนทนา
                ในแอปพลิเคชันไลน์จากโทรศัพท์เคลื่อนที่ของจำเลย และจำเลยให้การชั้นสอบสวนรับว่า ข้อมูลรับ
                พนันบางส่วนได้มาจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ของจำเลย โดยพนักงานสอบสวนซึ่งไม่มีส่วนได้เสียกับ
                ผู้จับกุมได้จัดทำไปตามคำให้การของจำเลย พยานโจทก์ทั้งหมดไม่มีสาเหตุโกรธเคืองจำเลยมาก่อน
                ดังนี้ พยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักมั่นคงรับฟังได้โดยแจ้งชัดปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยกระทำ
                ความผิดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๔ พยานหลักฐานของจำเลยไม่อาจหักล้างพยานหลักฐาน
                ของโจทก์ได้ สำหรับฎีกาข้ออื่นของจำเลยเป็นรายละเอียดปลีกย่อยซึ่งไม่เป็นสาระแก่คดีที่จำต้อง
                วินิจฉัย ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๔ วินิจฉัยว่า จำเลยกระทำความผิดมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
                ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น

                     คดีมีปัญหาข้อกฎหมายต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๔
                ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยโจทก์ฎีกาว่า ศาลต้องลงโทษปรับด้วย และสั่งให้จำเลยจ่ายเงินสินบน
                นำจับตามกฎหมายนั้น เห็นว่า พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๑๒ (๑) บัญญัติบท
                ลงโทษในความผิดฐานจัดให้มีการเล่นการพนันสลากกินรวบไว้ว่า “ให้ลงโทษจำคุกตั้งแต่ ๓ เดือน
                ขึ้นไปจนถึง ๓ ปี และปรับตั้งแต่ ๕๐๐ บาท ขึ้นไปจนถึง ๕,๐๐๐ บาท ด้วยอีกโสดหนึ่ง“ ซึ่งคำว่า
                “อีกโสดหนึ่ง” ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้คำจำกัดความไว้ว่า หมายถึง
                กระทงความส่วนหนึ่ง โดยมิใช่บทบังคับให้ศาลต้องลงโทษจำคุกและปรับด้วยเสมอ จึงเท่ากับ

                กฎหมายกำหนดให้ลงโทษทั้งจำคุกและปรับด้วย แต่ถ้าศาลเห็นสมควรแก่พฤติการณ์แห่งคดีก็มี
                อำนาจใช้ดุลพินิจลงโทษจำคุกโดยไม่จำต้องลงโทษปรับด้วยก็ได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา



                                                             อัยการนิเทศ เล่มที่ ๘๖ พ.ศ. ๒๕๖๔  81
   86   87   88   89   90   91   92   93   94   95   96