Page 26 - วิศวกรรมสาร ปีที่ 76 ฉบับที่ 2 เมษายน - มิถุนายน 2566
P. 26
การน�าแบบจ�าลองสารสนเทศอาคารมาใช้ในโครงการโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทย (กรณีศึกษา: โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยว)
การด�าเนินการมีความท้าทายในด้านประสิทธิภาพกับความคุ้มค่า แบบการออกแบบเบื้องต้น (preliminary design drawing) จาก
การลงทุนในการก่อสร้าง การบ�ารุงรักษา ซ่อมแซม โดยการน�า นั้นจึงมีการเสนอแบบดังกล่าวไปยังเจ้าของงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง
BIM มาประยุกต์ใช้ในแต่ละขั้นตอน สิ่งที่ส�าคัญคือ การวางแผน เพื่อพิจารณา ซึ่งเมื่อแบบข้างต้นได้รับการพิจารณาและรับข้อมูล
การจัดการข้อมูล อีกทั้งการจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบดิจิทัล ดังนั้น เพิ่มโดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการเดินรถ แบบก็จะ
จุดประสงค์ของบทความนี้คือ การศึกษารูปแบบรวมถึงขั้นตอน ถูกพัฒนาเป็นแบบการออกแบบรายละเอียด (detailed design
ในการน�า BIM มาใช้ในโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน โดย drawing) ซึ่งในขั้นตอนนี้จะมีการตรวจสอบความถูกต้องของแบบ
รวมถึงการพัฒนา CRD ที่เป็นช่วงส่งผ่านระหว่างช่วงออกแบบ ในระดับความละเอียด LOD300 ถึง LOD400 จากนั้นจะเข้าสู่ขั้น
ไปยังช่วงก่อสร้าง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการวิเคราะห์ปัญหาและความ ตอนการประชุมประสานงานระหว่างผู้ออกแบบหลักและผู้ปฏิบัติ
ท้าทายที่เกิดขึ้นในการใช้ BIM เพื่อเป็นข้อมูลตั้งต้นในการพัฒนา การเดินรถ เพื่อตรวจสอบข้อขัดแย้งของแบบระหว่างกัน และน�า
กรอบการท�างานของ BIM (BIM framework) ที่สามารถน�ามาใช้งาน ไปสู่การพัฒนาเป็น CRD โดยมีขั้นตอนการด�าเนินการดังรูปที่ 3
ในโครงการโครงสร้างพื้นฐานได้จริงในอนาคตอีกด้วย CRD จะเริ่มจากการพัฒนาแบบจ�าลองของแต่ละส่วนงาน และ
จากนั้นจึงท�าการตรวจสอบข้อขัดแย้ง (clash detection) ร่วมกัน
เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของแบบจ�าลอง แล้วน�าไปพัฒนาจัด
2. วิธีการศึกษา ท�าแบบก่อสร้าง โดยการตรวจสอบความถูกต้องของ CRD จะมี
ในหัวข้อนี้จะอธิบายถึงขั้นตอนและรูปแบบในการจัดท�า CRD 3 ขั้นตอนดังนี้
ของโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว โดยเริ่มตั้งแต่ภาพรวมและอธิบาย 1. การตรวจสอบด้วยสายตา (visual check) จะต้องใช้
รายละเอียดของการจัดท�า CRD ของคานทางวิ่งและงานสถานี ประสบการณ์ของผู้ตรวจสอบแบบจ�าลอง เพื่อตรวจสอบและ
ตัดสินใจในการแก้ไขรายละเอียดส่วนต่าง ๆ เบื้องต้น
2.1 ภาพรวมของโครงการและนิยามของ CRD 2. การตรวจสอบด้วยโปรแกรม Navisworks โดยการก�าหนด
จากกรณีศึกษาโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยวซึ่งมีรูปแบบโครงการ ขอบเขตเงื่อนไขข้อขัดแย้งของแบบจ�าลองในแต่ละระบบที่จะ
เป็นสัญญาร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนหรือ PPP ที่ทางบริษัท เกิดขึ้นได้ และใช้โปรแกรมท�าการตรวจสอบ โดยจะแบ่งออกเป็น
ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จ�ากัด (มหาชน) 2 รูปแบบ คือ hard clash ซึ่งเป็นการตรวจสอบวัตถุที่ซ้อนทับกัน
เป็นผู้รับผิดชอบงานออกแบบและก่อสร้าง (design & build) โดยที่ และ clearance clash ซึ่งเป็นการตรวจสอบวัตถุที่อยู่ห่างกัน
รูปแบบโครงการออกแบบและก่อสร้าง ที่เป็นงานโครงสร้างพื้นฐาน เกินกว่าที่ก�าหนด
ในไทยยังมีจ�านวนน้อย ซึ่งจะมีความแตกต่างจากงานอาคารโดย 3. การตรวจสอบด้วยอุปกรณ์ Visual Reality (VR) ซึ่งจะใช้
ทั่วไปคือ จะมีผู้เกี่ยวข้องภายในโครงการเป็นจ�านวนมาก ตั้งแต่ หลังจากการตรวจสอบทั้ง 2 รูปแบบข้างต้นแล้ว โดยเป็นการน�า
เจ้าของงานที่เป็นหน่วยงานภาครัฐ, ผู้รับสัมปทาน, ผู้รับเหมางาน เสนอผ่านประสบการณ์เสมือนจริง ที่จะท�าให้ผู้เกี่ยวข้องสามารถ
ออกแบบและก่อสร้าง (E.P.C contractor) และผู้ปฏิบัติการเดินรถ เห็นภาพในรูปแบบสามมิติได้จริง ดังรูปที่ 4
ท�าให้การก�าหนดขั้นตอนการท�างานและประสานงานถือเป็นสิ่ง
ส�าคัญ บริษัทฯ จึงได้มีการจัดท�าแผนการจัดการงานออกแบบ
(design management plan) ควบคู่กับแผนงานออกแบบ
(design schedule) เพื่อใช้ในการก�าหนดบทบาท, หน้าที่ และ
กระบวนการออกแบบ ที่จะท�าให้ได้แบบเพื่อการก่อสร้าง ที่ผ่านการ
ตรวจสอบข้อขัดแย้งของแบบ (clash detection) ในทุกระบบงาน
ทั้งในส่วนที่บริษัทฯ รับผิดชอบ และส่วนงานที่อยู่ในขอบเขตของ
ผู้ปฏิบัติการเดินรถ (trackwork operator) เพื่อให้ได้แบบก่อสร้าง
ที่สามารถน�าไปใช้ในการก่อสร้างได้จริง
กระบวนการออกแบบจะเริ่มต้นจากการได้รับการออกแบบเชิง
แนวคิด (concept design) และข้อก�าหนดการออกแบบ (design
requirement) จากเจ้าของงาน และน�ามาพัฒนาการออกแบบเป็น ภาพจาก : https://www.home.co.th/hometips/topic-13808
26 วิศวกรรมสาร
ปีที่ 76 ฉบับที่ 2 เมษายน - มิถุนายน 2566